เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ “ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา” หรือ ตลาดช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อสำรวจพื้นที่หลังจากที่เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างหนักเมื่อกลางดึกของวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดในการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุ หลังผู้สื่อข่าวไปถึงต่างรู้สึกตกใจเพราะพื้นที่บริเวณนี้เคยเต็มไปด้วยของใช้มากมายหลายอย่างทั้งที่นอน เสื้อผ้า เครื่องใช้ภายในครัวเรือน รวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า หลอดไฟ และโซลาร์เซลล์ รวมๆ แล้วเป็นร้อยร้านสินค้านับหมื่นรายการ โดนเพลิงไหม้วอดจนเหลือแต่ขี้เถ้า ต่างสร้างความหดหู่ใจให้กับคนที่เคยมาเดินเลือกซื้อของใช้เพราะตอนนี้เหลือเพียงเถ้าถ่าน

พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทยที่โดนเพลิงไหม้ร้านจนไม่เหลืออะไร บางคนก็กลับไปบ้านเกิด บางคนก็กัดฟันสู้นำสิ่งของที่โดนเพลิงลุกไหม้ในคืนนั้นมาขาย สภาพการใช้งานอาจยังใช้การได้บ้าง เช่น มีด, แก้วน้ำ, จานชาม, มีด 2 คม ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 1 บาท โดยพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา เปิดใจว่า ลำบากมากของที่นำมาขายบางคนก็ขายกินเปอร์เซ็นต์ ไฟไหม้มาก็เท่ากับว่าหมดทุกอย่าง แถมยังติดหนี้อีก จึงได้พากันนำของที่โดนไฟไหม้มาวางขาย ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ได้วันละ 200-300 บาท ก็ยังดีกว่าไม่ได้เงิน