เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 ศูนย์ราชการฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงผลการจับกุมผู้บริหารจัดการด้านการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในเครือ UFA ว่า สำหรับการจับกุมนายภาคภูมิ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี บิ๊กบอสเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ยูฟ่า (UFA) ซึ่งเจ้าตัวเป็นเจ้าของ license โดยซื้อมาจากต่างประเทศ ฝั่งอเมริกาและยุโรป อย่างไรก็ตาม license เว็บพนันของนายภาคภูมิ จะเป็นคนละ license กับเครือข่ายสารวัตรซัวและเอ็ดดี้ จากนั้นนายภาคภูมิ ได้มีการขายสัญญาณให้กับเจ้าของเว็บพนันรายอื่นๆ เพื่อให้แต่ละรายไปทำการตลาดของตัวเอง เช่น UFA168 UFABET365 เป็นต้น ซึ่งเมื่อทุกคนเอาไปทำการตลาดเป็นของตัวเองแล้ว จากนั้นจึงมีการจ่ายค่าสัญญาณ (license) ให้กับเจ้าของเว็บ UFA ทุกเดือนๆ ซึ่งก็คือนายภาคภูมิ ผ่านบัญชีม้า ชื่อ “น.ส.ชบา ปะตะทะกัง” จึงทำให้บัญชีนี้ เป็นบัญชีที่ใช้สำหรับการรับค่าปันผลของเจ้าเว็บพนัน UFA ทุกเครือข่าย ซึ่งจะต้องแบ่งจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ให้กับนายภาคภูมิ อัตรา 3% บัญชีม้านี้จึงถือเป็นการมัดรวมเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เกือบทุกเจ้า
โดยการจับกุมนายภาคภูมิ พนักงานสอบสวนได้จับกุมไปเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังสืบสวนพบว่า เจ้าตัวจะเดินทางกลับมาจากฮ่องกงพร้อมกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ โดยถูกแจ้งข้อหา ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน เอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว นำตัวส่งฟ้องต่อศาล และศาลไม่อนุมัติปล่อยตัวชั่วคราว จึงถูกควบคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

พ.ต.ต.สุริยา เผยอีกว่า สำหรับความสำคัญของนายภาคภูมินั้น เบื้องต้นถือเป็นเบอร์ 1 ของเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ในประเทศไทย เพราะเบอร์ 2 และเบอร์ 3 คือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว และนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือ เอ็ดดี้ ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ และจากการสืบสวนขยายผลมาจากกรณีของการจับกุม น.ส.ชบา (บัญชีม้าขนาดใหญ่ของขบวนการสีเทา) พนักงานสอบสวนได้ใช้เวลากว่า 5 เดือน โดยขยายผลจากการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินและระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด พบว่าเครือข่าย UFA ของนายภาคภูมิ มีบัญชีม้าจำนวน 83 บัญชี ซึ่งล้วนเป็นบัญชีม้าของแรงงานต่างด้าวที่มีนายจ้างเป็นคนไทย และนายจ้างเหล่านี้ เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดย่อมตามภาคตะวันออก และเรายังพบว่ามีเอเย่นต์เว็บพนันและเจ้าของเว็บไซต์พนันกว่า 50 ราย ขณะที่จำนวนเว็บไซต์พนันมีถึง 1,000 เว็บไซต์ เมื่อตรวจสอบยอดเงินหมุนเวียน พบว่ามีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
พ.ต.ต.สุริยา เผยถึงความยากในการไล่ติดตามนายภาคภูมิ ว่า เจ้าตัวมีการใช้นามแฝงว่า “ดีดี้” และไม่ใช่คนดัง หรือมีคอนเนกชั่นกับใครในแวดวงเครือข่ายเว็บพนัน เสมือนผีล่องลอย ไม่เคยออกหน้าออกตาทางโซเชียลมีเดีย ไม่เคยทานข้าวหรือถ่ายภาพร่วมเฟรมกับบรรดาแก๊งเว็บพนันรายอื่นๆ ใช้ชีวิตโลว์โปรไฟล์ ไม่ครอบครองรถหรูใดๆ ไม่มีทรัพย์สินราคาแพงเหมือนสารวัตรซัวหรือเอ็ดดี้ ทำให้ติดตามตัวได้ยาก แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวน กองคดียาเสพติด คือ หน่วยงานแรกที่สามารถสืบสวนสอบสวนขยายผล แกะความเชื่อมโยงจากเส้นทางการเงินได้สำเร็จ นอกจากนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่านายภาคภูมิ เริ่มเข้าวงการพนันออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2560 แต่ดีเอสไอเริ่มพบความเคลื่อนไหวและเริ่มมีพยานหลักฐานปรากฏในช่วงปี 2563

พ.ต.ต.สุริยา เผยอีกว่า การอายัดบัญชีม้ากว่า 83 บัญชีนั้น เราจะดำเนินการออกหมายเรียกเหล่านายจ้างชาวไทย เพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน เพราะบัญชีม้าเหล่านี้เป็นของแรงงานต่างด้าว หรือลูกน้องของตัวเอง เพื่อสอบถามนายจ้างที่พาแรงงานไปเปิดบัญชีธนาคาร มีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงินด้วยหรือไม่ เพราะปัจจุบันธนาคารได้กำหนดให้นายจ้างต้องรับรองการเปิดบัญชีธนาคารของลูกจ้างต่างด้าว และตนขอเตือนให้ทำการตรวจสอบ สอดส่อง ไม่ให้ลูกจ้างนำบัญชีที่เปิดไปขายต่อให้กลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์ ซึ่งหากสืบสวนแล้วพบว่านายจ้างมีส่วนรู้เห็นในการเปิดบัญชีม้า ก็จะมีความผิดร่วมกับลูกจ้างในฐานเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดได้
พ.ต.ต.สุริยา เผยต่อว่า ภายหลังจับกุมตัวนายภาคภูมิ ได้มีการสอบปากคำเบื้องต้น ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่ให้การใดๆ ไม่ได้รับสารภาพต่อข้อกล่าวหา แต่ให้การภาคเสธเท่านั้น เพราะจำนนต่อพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อีกทั้งในระหว่างที่ดีเอสไอควบคุมตัวนายภาคภูมิ ก็ได้มีทนายความส่วนตัวติดต่อเข้ามาทำคดีจำนวนมาก รวมถึงมีตำรวจหลายนายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตรวจสอบเรื่องเว็บพนัน ได้ประสานติดต่อมายังดีเอสไอ แต่ทางดีเอสไอไม่รับการพูดคุย และไม่เอามาเป็นประเด็นในการดำเนินคดีกับนายภาคภูมิ
ทั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา เผยด้วยว่า ล่าสุดดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพยานแก่บุคคลสำคัญของนายภาคภูมิ ประมาณ 2-3 ราย ให้เข้าให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้ แต่ขอละเว้นการเปิดเผยรายละเอียด รวมทั้งหลังจากนี้ดีเอสไอจะดำเนินการออกหมายเรียกพยานแก่นายจ้างชาวไทยและแรงงานต่างด้าวที่เป็นเจ้าของบัญชีม้า เพื่อให้การชี้แจงถึงสาเหตุการเปิดบัญชีธนาคาร แต่บัญชีนั้นกลับไปอยู่ในมือของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติมว่า นายภาคภูมิมีการถ่ายโอนทรัพย์สินหรือซุกซ่อนทรัพย์สินไว้ที่ใดบ้าง เพื่อเข้าอายัดทรัพย์สิน และให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน รวมถึงจะต้องขยายผลไปยังบุคคลอื่นๆ เพิ่มเติม ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง.