วันที่ 10 พ.ย. ที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการประชุม คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาลงมติกรณีการรวมธุรกิจของ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทวอร์ค จำกัด (เอดับบิวเอ็น) บริษัทลูกของเอไอเอส และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB โดยการประชุมเริ่มในเวลา 09.00 น. กรรมการทั้ง 7 ราย ได้เดินทางมาเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยเมื่อเริ่มประชุม ทางบอร์ด กสทช. ได้มีการพิจารณาถึงข้อกฎหมายว่า บอร์ด กสทช. มีอำนาจในการพิจารณา อนุญาตให้รวมธุรกิจ หรือ เพียงแค่รับทราบเท่านั้น ซึ่งการถกเถียงใช้เวลานาน ยังไม่ได้ข้อยุติ จนถึงเวลา 11.30 น. ทาง นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย ได้เดินออกจากห้องประชุมขึ้นลิฟต์กลับขึ้นไปยังห้องทำงาน จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. จึงได้ลงมาประชุมต่อ จนถึงเวลา 13.00 น. หลังจากนั้นทาง บอร์ด กสทช. ต่างทยอยออกมาจากห้อง เนื่องจากต้องเดินทางไปร่วมงานภารกิจสำคัญ หลังจากนั้นจะกลับมาประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้กันต่อ

ซึ่งต่อมาเวลา 15.30 น. ทางบอร์ด กสทช. 5 ราย ประกอบด้วย พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, น.ส.พิรงรอง รามสูต, นายศุภัช ศุภชลาศัย, นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ และนายต่อพงศ์ เสลานนท์ ได้เดินทางกลับมาประชุมต่อ แต่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ไม่ได้เดินทางกลับเข้ามาประชุมต่อ ซึ่งที่ประชุมได้เลือก พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ การประชุมดำเนินมาถึงเวลา 18.20 น. บอร์ด กสทช. ได้ออกมาจากที่ประชุม โดยที่ประชุมได้มีการลงมติอนุญาตให้รวมธุรกิจ 4 เสียง และ 1 เสียง งดออกเสียง โดย 4 เสียงที่อนุญาต คือ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, น.ส.พิรงรอง รามสูต, นายศุภัช ศุภชลาศัย, นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ส่วน นายต่อพงศ์ เสลานนท์ งดออกเสียง โดยการอนุญาตให้รวบธุรกิจนี้ เป็นไปในแบบมีเงื่อนไขเฉพาะ ออกมาเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ส่วน 2 กสทช. คือ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ได้ลงมติรับทราบ และไม่ได้เข้าร่วมประชุมในช่วงบ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังการลงมติของบอร์ด ทั้ง 5 รายแล้ว ทางสำนักงานได้ทำการติดต่อไปยัง นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร เพื่อให้กลับมายัง สำนักงาน กสทช. เพื่อให้ลงมติรับทราบเงื่อนไขมาตรการเฉพาะ ในการอนุญาตรวมธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดเปิดเผยออกมาว่า มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า การอนุญาตให้ AIS-3BB รวมธุรกิจแบบมีมาตรการเงื่อนไขเฉพาะ ครั้งนี้ จะทำให้ AIS และ 3BB จะมีฐานลูกค้าไฟเบอร์ขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่ 4.69 ล้านราย จากเดิมข้อมูลในไตรมาส 3   ทรู ออนไลน์ มีฐานลูกค้า  3.8 ล้านราย ส่วน เอไอเอสไฟเบอร์ มีฐานลูกค้า 2.38 ล้านราย และ  3BB มีฐานลูกค้า  2.31 ล้านราย ส่วน เอ็นที มีฐานลูกค้า 1.8 ล้านราย