เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รรท.รอง ผบช.ภ.8 เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมตอบโต้สถานการณ์คนร้ายก่อเหตุด้วยอาวุธปืน “Active Shooter training” ห้วงวันที่ 10-12 พ.ย.66

โดยได้รับความร่วมมือจาก พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท. พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1 บช.ทท.,พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามศรีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย, คณะวิทยากรหลักสูตร การบริหารเหตุวิกฤตกรณีคนร้ายยิงกราด (Active Shooter Incident Management ) ของ กก.1 บก.ทท.1 ,กก.สายตรวจ บก.สปพ., คณะครูฝึก บก.สส.ภ.8 เป็นวิทยากร

สืบเนื่องจาก ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุเพชร รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลด้านงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในเรื่องของการสร้างความรู้และการรับมือกับเหตุการณ์วิกฤต กรณีมือปืนยิงกราด เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนการแก้ไขสถานการณ์ การเผชิญเหตุ ระดับการใช้กำลัง (use of force) ตามคู่มือสายตรวจ และยุทธวิธีตำรวจ และที่เป็นรูปแบบที่เป็นสากล เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาในเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่สถานการณ์การจับยึดตัวประกัน ขึ้นตอนการเจรจาต่อรอง ลำดับการปฏิบัติของสายตรวจ ตาม แบบ ORMT และหลัก 5C การ LCAN สถานการณ์คนร้ายยิงกราด สถานการณ์ Active Shooter จนไปถึงสถานการณ์การก่อร้ายเต็มรูปแบบเนื่องในปัจจุบันมีการก่อเหตุอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา หรือ เหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู เหตุการกราดยิงที่เเหล่งท่องเที่ยวเช่น สยามพารากอน จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดความรู้ สร้างแนวความคิด ทักษะ และวิธีการปฏิบัติตาม SOP เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเผชิญเหตุ

โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบถึงความหมายของ Active Shooter Thattent ,เพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจ เกี่ยวกับการบริหารเหตุการณ์วิกฤติ กรณีมือปืนยิงกราด ( Active Shooter ) ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ,เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถปฏิบัติได้เมื่อเผชิญเหตุเป็นคนแรก ตอบสนองต่อเหตุการณ์แก้ไขวิกฤติการณ์เหตุมือปืนยิงกราดได้ ,เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบวิธีการเอาตัวรอด จากเหตุการณ์บุกยิงกราด เมื่อถึงเวลา สามารถทำได้ภายใต้สถานการณ์ที่มีความกดดันสูง เพราะเวลาและชีวิตเหยื่อสำคัญที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดคือชีวิตของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติที่สำคัญเช่นกัน ความหมายคือต้องปลอดภัยทั้งหมด จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการฝึกยุทธวิธีในด้านต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชน ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ทำแผนเผชิญเหตุที่ ห้างเซนทรัลสมุย เป็นตัวอย่างที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย

ทั้งนี้ผู้เข้ารับการฝึกประกอบด้วย ข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อผุด,สภ.สมุย และ ตำรวจ ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 (สมุย,พะงัน) รวม 76 นาย ฝึกอบรมยุทธวิธีตำรวจ ASIM ในส่วนภาคประชาชน ประกอบด้วย ปลัดอำเภอเกาะสมุย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย, พนักงานรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เกาะสมุย, หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่, พนักงานรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ รวม 252 นาย ฝึกการเอาชีวิตรอด หนีซ่อน สู้ รวมผู้รับการฝึกทั้งสิ้น 328 นาย.