สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่า กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (เคเอ็นดีเอฟ) อ้างการยิงเครื่องบินรบลำหนึ่งของกองทัพเมียนมา ตกในเขตรัฐกะยา ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และมีพรมแดนบางส่วนติดกับไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ระบุว่า ยิงตกได้อย่างไร แต่กล่าวว่า กำลังเร่งค้นหาซากเครื่องบิน และเบาะแสของนักบิน


ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา ว่าเกิดเหตุเครื่องบินรบขนาดเล็กตกระหว่างการฝึกซ้อม “เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค” แม้ไม่ได้ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ใด อย่างไรก็ตาม นักบินสองนายดีดตัวออกจากเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย และติดต่อกลับมายังศูนย์บัญชาการแล้ว เพื่อยืนยันตัวตนและสถานะ


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบรอบใหม่ ที่ทวีความรุนแรงตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ ในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น ที่อยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือ ถือเป็นความท้าทายทางความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลทหารเมียนมา นับตั้งแต่การยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564


พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและนายกรัฐมนตรีเมียนมา กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคทางเหนือของประเทศ เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรื้อรังมานาน กองกำลังชาติพันธุ์ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพเมียนมาอยู่ในเวลานี้ อาศัยรายได้จากการค้ายาเสพติดเพื่อเป็นทุน ในการก่อความไม่สงบ


ด้าน พล.อ.มินต์ ส่วย รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา กล่าวว่าหากรัฐบาลและกองทัพไม่สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ “มีแนวโน้ม” ที่เมียนมา “จะแตกออกเป็นเสี่ยง”


ขณะที่จีนออกมาแสดงความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการหยุดยิง การเจรจา และการปกป้องพลเรือนจีน ตลอดจนผลประโยชน์ร่วมระหว่างทั้งสองฝ่าย หลังมีรายงานพลเมืองจีน “จำนวนหนึ่ง” เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ นอกจากนั้น รัฐบาลปักกิ่งส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนเดินทางมายังเมียนมา เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทหารเมียนมาด้วย.

เครดิตภาพ : AFP