สรุปไทม์ไลน์ม็อบวันที่ 19 ก.ย.เริ่มเวลา 14.00 น. ที่แยกอโศกมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้นัดหมายทำกิจกรรมคาร์ม็อบ “ขับรถยนต์ชนรถถัง 19 ก.ย.” เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐประหาร และรำลึกเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 สานต่อเจตนารมณ์ของ นายนวมทอง ไพรวัลย์ อดีตพนักงานการไฟฟ้า ผู้ขับแท็กซี่ชนรถถังเพื่อประท้วงการทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 รวมถึงเรียกร้องต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เวลา 15.00 น. นายณัฐวุฒิ จึงประกาศเริ่มเคลื่อนขบวนออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เวลา 15.15 น. เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าแยกพระรามสี่ คลองเตย ฝั่งตรงข้ามศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงดังซ้ำขึ้นอีกครั้งที่เดิม ทำให้รถจักรยานยนต์ 1 คันได้รับความเสียหาย กระจกมองข้างแตก 1 ข้าง และท่อประปาหน้าบ้านเรือนของชาวบ้านแตกเสียหาย นอกจากนี้มีรายงานว่า มีผู้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 4 รายถูกรำส่งรพ.เทพธารินทร์ ก่อนส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ตำรวจ ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุ อาจเกิดจากระเบิดปิงปองที่พกมาเองระเบิดขึ้น เพราะมีคราบดินระเบิดติดตัวคนเจ็บ

เวลา 17.00 น. ขบวนคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนมาถึงยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเริ่มทำกิจกรรมนำผ้าดำมาคลุมพานอนุสาวรีย์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร

เวลา 18.02 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ประกาศยุติการชุมนุม พร้อมบอกว่าให้รอฟังนัดหมายครั้งต่อไป ซึ่งในช่วงท้ายมีการขับร้องเพลง เราคือเพื่อนกัน ของวงสามัญชน โดยนายโชคดี โชคร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก

เวลา 18.10 น. ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นบริเวณกลางถนน โดยไม่ทราบแน่ชัดว่า เป็นการกระทำของบุคคลกลุ่มใด แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนจับกลุ่มอยู่บริเวณลานเอนกประสงค์ ด้านหลังร้านเมธาวลัยศรแดง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ จึงกรูวิ่งไล่เข้าไปภายในซอย ทางฝั่งเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจขว้างระเบิดสตั๊นท์บอมบ์เพื่อเป็นการสกัดกั้น ก่อนจะรีบถอยร่นออกนอกพื้นที่ทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นตามมาอีกครั้ง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นบางส่วนกรูเข้ารุมทำร้ายชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่เดินออกมาจากซอยด้านหลังร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนขว้างระเบิดปิงปองสร้างสถานการณ์ จนได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกาย

เวลา 18.30 น. สถานการณ์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มวลชนเริ่มแยกย้ายออกจากพื้นที่

เวลา 19.00 น.มีกลุ่มมวลชนบางส่วน ได้รวมตัวกันบริเวณแยกนางเลิ้ง ก่อนเคลื่อนไปยังบริเวณสะพานชมัย​มรุ​เช​ฐ​ ถนนพิษณุโลก​ และมีการจุดประทัดและพลุไฟ ไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตั้งแนวป้องกันอยู่บริเวณสะพาน ก่อนข้ามไปยังทำเนียบรัฐบาล

เวลา 19.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้ยิงแก๊สน้ำตาออกมาจากทางแนวป้องกัน หลังจากที่ทางกลุ่มมวลชนได้มีการเข้ามาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ ปาประทัดและยิงพลุเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงยิงแก๊สน้ำตาออกมาทำให้กลุ่มมวลชนล่าถอย ออกไปยังบริเวณแยกนางเลิ้งอีกครั้ง ภายหลังกลุ่มควันจากแก๊สน้ำตาเจือจางไป กลุ่มมวลชนได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมเดินเข้าหาและปาประทัดและยิงพลุเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง

เวลา 19.50 น.ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นบริเวณป้อมจราจร แยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ฉายแสงเลเซอร์เข้าใส่กลุ่มมวลชน ก่อนที่กลุ่มมวลชนจะจับกลุ่มและเคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ เพราะมีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่เตรียมเข้ากระชับพื้นที่

เวลา 20.00 น.เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้เคลื่อนกำลังออกมาจากบริเวณสะพานชมัยฯ เพื่อมายัง บริเวณแยกนางเลิ้ง กระทั่ง 20.15 น.เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนทั้งที่เดินเท้ามาจากทางสะพานชมัย​มรุ​เช​ฐ​ ถนนพิษณุโลก​และหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ที่เดินทางมาจากทางถนนนครสวรรค์​ ได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกนางเลิ้ง

เวลา 20.30 น.ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ทำให้กลุ่มมวลชนต้องแยกย้ายกันออกไป มวลชนบางส่วนไปปักหลัก บริเวณแยกหมอเหล็ง ถนนราชปรารภ เนื่องจากวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกดินแดงไว้ทุกด้าน จึงทำให้กลุ่มผู้ชุนนุมไม่สามารถรวมตัวกันที่แยกดินแดงได้อย่างที่นัดหมายกัน มวลชนบางส่วนก็ไปรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์​ชัยสมรภูมิ

เวลา 20.40 น.เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน พร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์​ชัยสมรภูมิ​ ทำให้กลุ่มมวลชนต้องล่าถอยออกไปอีกครั้ง โดยมวลชนบางส่วนได้ไปรวมกันที่แยกพญาไท แต่เพียงไม่นาน กลุ่มมวลชนก็แยกย้ายสลายไป