จากกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิป “อาจารย์เอก” ฝ่ามือพลังจิต รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูก ด้วยการให้นอนคว่ำ และเดินถีบผู้ป่วยแต่ละคน โดยในคลิปผู้ถ่ายบรรยายว่า ที่นอนอยู่นี่ มีอาการกระดูกทับเส้นทั้งหมด ไม่ต้องใช้เวลานาน แค่ให้อาจารย์ถีบแล้วลุกขึ้นเลย แล้วทดสอบเลยว่าเบาขึ้นไหม ดีขึ้นไหม ซึ่งมีคนยกมือตอบว่าโดนถีบแล้ว อาการดีขึ้น เบาขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมออนไลน์ตั้งคำถามกับการกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ศศิ นนทบุรี โฮเทล แอนด์ อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 88/87 ถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบนายกีรติ สมคิด หรือ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต อายุ 53 ปี หมอเทวดาคนดังในโซเชียล ที่นำศาสตร์พลังจิต รักษาผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ แขนขาอ่อนแรง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดคอ ปวดหลัง ปวดหัวไมเกรน โดยวันนี้มีคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ มารอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก

จากการสอบถาม นางกาญจณา ไลทรัพย์ อายุ 74 ปี หนึ่งในผู้ที่มารับการรักษา ชาวบางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนป่วยเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อที่ 4-5 โดยหลังมีอาการร้าวไปถึงก้นจนถึงขา มีอาการชาตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะเป็นเวลานานกว่า 12 ปีแล้ว ไปรักษามาจนทั่ว หมดเงินไปไม่น้อย ก่อนหน้านี้ไปรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุว่าเป็นอะไร หมอได้นำตัวเข้าอุโมงค์ แล้วผลปรากฏว่าเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อน การรักษาทางเดียวคือต้องผ่าตัด ถ้าหากไม่ผ่าตัดจะทำให้เดินไม่ได้ ตนจึงไปตรวจอีกหลายโรงพยาบาล ผลการวินิจฉัยก็ออกมาเหมือนกัน คือต้องให้ผ่าตัดเท่านั้น แต่กลัวว่าถ้าผ่าแล้วจะทำให้เดินไม่ได้ จากนั้นจึงไปฝังเข็ม และใช้ถ้วยดูดก็ไม่หาย มารักษาที่นี่ครั้งแรก ก็อาการดีขึ้น

ตนรู้จักกับอาจารย์จากทางยูทูบ ที่ทำการรักษาคน จนล่าสุดเห็นรักษานายวินัย ไกรบุตร ซึ่งตนติดตามดูว่าอาการเป็นอย่างไร หลังการรักษาไป 5 วัน 8 วัน พบว่านายวินัย ไกรบุตร อาการดีขึ้น จึงตัดสินใจมารักษา ซึ่งก่อนมารักษา ตนยังเดินไม่สะดวก แต่หลังจากรักษาแล้วก็วิ่งได้ โดยอาจารย์บอกว่าถ้าหายแล้วไม่ต้องมาอีก ตอนนี้เดินได้ หันซ้ายหันขวาได้สะดวกขึ้น ตอนแรกขากรรไกรแข็ง พูดคุยได้ไม่นานจะมีอาการเมื่อย โดยอาจารย์เอกใช้เวลารักษาไม่ถึง 5 นาที ก็ดีขึ้น คิดว่าตนน่าจะหาย ไม่ได้มาเล่นละคร ไม่ได้ค่าตัว

ทางด้าน อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต กล่าวว่า อาจารย์เคยไปรักษาเคสยายเสาร์ ช่วยรักษาให้ 2 รอบ ทุกรอบที่ไปอาการก็ดีขึ้น จากที่มองไม่เห็นแสงอะไรเลย เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าค้ำ จนตอนนี้เห็นหน้าลูกหน้าหลานแล้ว เคยบอกแกว่ามาช่วยได้แค่นี้ เพราะมาที อาจารย์หมดเกือบแสน ยายมีตังค์แล้วให้กรรมการเขาพามาหาอาจารย์ อาจารย์จะช่วยต่อเนื่อง บอกยายแกว่าถ้าไม่มารักษาต่อเนื่องเดี๋ยวจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะยังไม่เข้าสู่กระบวนการรักษาที่ทำเต็มรูปแบบ คนตาบอดที่ผลออกมาแล้วว่ามองไม่เห็นอะไรเลย แต่อาจารย์ทำให้อยู่ใกล้มองเห็น แต่นี่แกก็ยังเห็นอยู่ ไม่ใช่บอดสนิท บางช่องไปออกข่าวว่าแกบอดสนิท รักษาเสร็จแล้ว 3 วัน กลับมาบอดสนิทเหมือนเดิม ออกข่าวผิดแก้ไขให้อาจารย์ด้วย

‘ชลน่าน’ ส่งจนท.ตรวจสอบ หลัง ‘อาจารย์เอก’ ท้า ‘ตบ’ อ้างสิทธิรักษาเหนือกฎหมาย

หลังจากนี้อาจารย์จะไปพิสูจน์กับยายเสาร์ อยากให้นักข่าวทุกคนตามไปพิสูจน์ได้เลย ถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้น อาจารย์จะเลิกทำทุกอย่าง ถ้าทางการแพทย์ไปเจาะไปผ่า หมอเขาก็บอกแล้วว่าทำอะไรไม่ได้ สำหรับของยายเสาร์ ของเขามองไม่เห็น 100% คือเดินต้องคลำทาง หมอบอกแล้วว่าไม่มีโอกาสมองเห็น แต่อาจารย์ทำให้มองเห็นสีผ้า เห็นลูกเห็นหลานกอดคอกันร้องไห้ ทำไมไม่เอาคลิปนั้นมาลง ทำไมไม่พูดให้ดีๆ พออาจารย์ช่วยเหลือคนจนเป็นกระแส รู้ไหมว่าผู้ป่วยที่มานั่งรออยู่ที่นี่ ล้นมือทางการแพทย์ ซึ่งทางการแพทย์ไม่สามารถจะทำอะไรให้เขาได้แล้ว ทำไมเขาจะเลือกทางรักษาแบบนี้ไม่ได้

“เพราะฉะนั้นมาพิสูจน์ได้เลย อาจารย์ท้าทุกสาธารณสุขในประเทศไทย หมอดังๆ ในประเทศ ให้มาพิสูจน์กัน อาจารย์ท้าพิสูจน์ แล้วเอาศาสตร์นี้มาอยู่กับโลกใบนี้ คู่กับการรักษาแผนปัจจุบันมันจะดีกว่าไหม ที่จะต้องมานั่งโจมตีกัน พิสูจน์เหมือนนักข่าวเมื่อกี้ที่มา อาการปวดมาตั้งกี่ปี เดินแทบไม่ได้ อาจารย์ทำแค่ไม่กี่นาทีก็ดีขึ้น มาพิสูจน์ได้ อาจารย์ยินดี อาจารย์ฝากเรื่องนี้ถึงท่านรัฐมนตรี มันเป็นของดี อยากให้มันอยู่คู่โลกใบนี้ อาจารย์ถ่ายทอดลูกศิษย์มา 300 กว่าคนแล้ว เก่งกันทุกคน” อาจารย์เอก กล่าว

อาจารย์เอก กล่าวต่อว่า อาจารย์จะอธิบายศาสตร์ชนิดนี้ว่า เป็นศาสตร์แรกที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ไม่ผิดที่คนไม่เชื่อ เพราะมันเป็นเรื่องอัศจรรย์ ถ้าเป็นอาจารย์เห็น อาจารย์ก็ยังไม่เชื่อ แต่อาจารย์พิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คืออาจารย์ฝึกในเรื่องของพลังจิตขั้นสูงแล้ว ต่อให้ไม่โดนตัว อาจารย์ก็รักษาได้เป็นบางโรค ใครปวดหัวอยู่ตรงไหนก็ได้วิดีโอคอลมาหาอาจารย์ อาจารย์ทำให้ดูผ่านโทรศัพท์ได้ หรือปวดเข่าให้รักษาตรงนี้ ไม่ต้องจับก็ได้ เดี๋ยวหาเคสมาพิสูจน์ ที่เคสเป็นจริง อะไรที่มันเกิดขึ้นมา ยินดีพิสูจน์ทุกเส้นทาง คือมันพิสูจน์ได้ การจับต้องของอาจารย์คือการพิสูจน์ อาจารย์ไม่ได้บอกว่า คนที่มาหาอาจารย์คนนี้หาย ไม่ได้บอกแบบนั้น แต่คนป่วยที่เขามา เขาพูดว่าดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาบอกดีขึ้น 10%, 20% อาจารย์ก็จะทำต่อ

วันนั้นคนป่วยไปเป็นพันกว่าคน ลูกศิษย์อาจารย์ไป 30 กว่าคน รับมือไม่ไหว อาจารย์เลยต้องใช้อภิญญา เขาเรียกว่าอภิญญา คือเราใช้ฤทธิ์เล่นฤทธิ์ ให้ทุกคนได้หายเร็ว เพราะในกระบวนการนั้น อาจารย์กำลังไปถวายกฐิน ต้องเร่งทำ เพราะมันมีเวลาจำกัดและสถานที่ไกลจากที่อาจารย์อยู่ ก็เลยทำทีเดียว โดยเราใช้พลังจิตค่อนข้างที่จะรุนแรง ซึ่งไม่มีอันตรายต่อผู้ป่วย เหมือนทุกเคสที่มา ไม่มีใครเจ็บเนื้อเจ็บตัว ไม่มีใครร้องโอดโอย ไม่ใช่กระชากกระดูก ไม่ใช่ดึงหลัง อาจารย์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน การเชิญมาทุกคน เจ้าของสถานที่เขามีการเช่าอาคาร คือเป็นค่าครู ใครจะรวบรวมมาให้ ค่าครูอาจารย์เดินทางมา อาจารย์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ตรงนี้คุณอาทรเขาเปิดเขาเชิญอาจารย์มา อาจารย์บอกเดือนนี้ว่าง 6 วัน คุณก็จัดคิวมา รวบรวมกันมา ใครไม่หายเขาก็ไม่รับค่าครู ก็คืนไป ใครไม่รุนแรง อาจารย์ก็ไม่รักษาหรือรักษาก็ได้ อาจารย์จะเอาเฉพาะคนที่อาการรุนแรงที่หมอทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว เช่น กระดูกทับเส้นต้องไปผ่า

อาจารย์มีอยู่ 4-5 บริษัท ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องทรัพย์สินเงินทอง มีค่าครูก็นำไปช่วยเหลือคน อย่างอาจารย์ไปช่วยคนแต่ละที่ หมดไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่นบาท จะเอาเงินที่ไหน ถ้าอยากจะรักษากับอาจารย์ก็ต้องจองคิวและรวมตัวกันได้ ถ้าต้องการส่วนตัว ก็ต้องเชิญอาจารย์ไป ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าที่พักอาจารย์ ค่าเสียเวลา แต่อาจารย์ให้ขึ้นเป็นค่าครู อย่างที่บอกค่าครู ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามูลนิธิไปช่วยเหลือคน อาจารย์ไม่ได้พูดเรื่องเงิน อยู่ที่ใครที่จัดกิจกรรมจัดงาน คนที่ทำเขาก็มีรายได้ มีรายจ่ายของเขา พื้นที่เขาก็ต้องเช่าโรงแรม มีพนักงาน แต่เขาก็ไม่ได้ไปเยอะอะไร

แต่ทุกเคสทุกคนก็ต้องไปช่วยสร้างบุญกุศลกันหมด อาจารย์พยายามตั้งค่าครูสูง ตั้งสูงเพราะอะไร เพราะอาจารย์ต้องการให้ทุกคนมาหาลูกศิษย์อาจารย์ เพราะอาจารย์ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์แล้ว อย่ามาหาอาจารย์เลย อาจารย์เหนื่อยมาก จริงๆ อยากจะหยุดรักษาด้วยตัวต่อตัว สร้างลูกศิษย์มา ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย ครอบครัวยังไม่ได้ดูแลเลย ใครที่มาแล้วไม่ดี อาจารย์คืนเงินให้หมดทุกบาท แถมให้เงินกลับไปด้วย ใครที่บอกยืมเงินมา ต่อให้มาหาอาจารย์ นั่นคือความตั้งใจ อาจารย์คืนเงินให้ แต่อาจารย์ทำให้เขาดี ทำให้เขาหาย ไม่ได้มานั่งหวังผลประโยชน์เรื่องเหล่านี้ ส่วนโรคความเสื่อม ความดัน เบาหวาน ไขมัน อาจารย์ใช้พลังจิตไม่ได้ แต่ช่วยได้ในระดับหนึ่งจากเขาเวียนหัว แต่ความเสื่อม เช่น ตาฝ้า ตามัว อาจารย์ช่วยได้ อย่างอัมพฤกษ์อาจารย์ช่วยให้เดินได้เลย.