นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 ได้กำหนดให้ “ธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เป็นบริการสื่อกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดการเชื่อมต่อเกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะคิดค่าบริการหรือไม่ก็ตาม ต้องมาแจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า ภายในวันที่ 18 พ.ย. ซึ่งก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ๆ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่มาแจ้งตามกำหนดเวลามีโทษจำคุก 1 ปี โทษปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ที่ผ่านมา ทางดีอี และ เอ็ตด้าได้ประสานไปยังทูตไทยในประเทศต่างๆ เพื่อสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจต่อตัวกฎหมาย กับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มในต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยให้รู้ถึงข้อกฎหมายว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้มีการจัดระเบียบ โดยเฉพาะในเรื่องค้าขายออนไลน์ การถูกหลอกลวง ซื้อของไม่ตรงปก จะทำให้เรื่องเหล่านี้ลดน้อยลงได้”
รายงานข่าวจาก เอ็ตด้า กล่าวว่า ได้มีผู้ประกอบการแพลตฟอร์มดิจิทัล ผู้ให้บริการรายใหญ่ และต่างชาติเข้ามาแจ้งข้อมูลแล้ว จำนวน 441 แพลตฟอร์ม โดยทยอยแจ้งข้อมูลเข้ามาในระบบ เฉลี่ยเกือบ 40-50 แพลตฟอร์มต่อวัน ครอบคลุมแพลตฟอร์มทั้ง 15 ประเภท ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติ โดยแพลตฟอร์มที่เข้ามาแจ้งมากที่สุด คือ บริการตลาดออนไลน์ ทั้งตลาดสินค้าและบริการ อาทิ ลาซาด้า, ฟู้ดแพนด้า, โรบินฮู้ด, ทราเวลโลก้า, แกร็บ และไลน์ ช็อปปิ้ง เป็นต้น รองลงมาคือ บริการรวบรวมและเผยแพร่เนื้อหาข่าวสาร อาทิ ไลน์ ทูเดย์, เด็กดีคอทคอม เป็นต้น และบริการสื่อสารออนไลน์ อาทิ เอไอเอส อีบิสสิเนส พอร์ทัล และ ไลน์ ออฟฟิเซียล แอคเคานท์ เป็นต้น