กรณีนายอำนาจ (นามสมมุติ) พ่อของนักเรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น นำภาพถ่ายเป็นใบงานแบบฝึกหัดระบายสีที่ลูกสาวได้มาจากครูที่โรงเรียน ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังถูกตัวแทนบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง โทรศัพท์มาหาในวันหยุด เพื่อเสนอขายประกันและการออมเงินให้กับลูกสาว โดยแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากการบ้านที่ทางโรงเรียนให้เด็กนักเรียนทำส่งครู ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและตั้งคำถามกับทางโรงเรียนว่า เหตุใดจึงนำข้อมูลของนักเรียนและผู้ปกครองไปให้บริษัทประกัน โดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบเรื่อง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ได้ไง!ใส่ข้อมูลส่วนตัวใน ‘ใบงานการบ้านลูก’ ส่งให้รร.แต่ถึงมือคอลเซ็นเตอร์

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น พบ นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ชี้แจงว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ทางโรงเรียนได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าช่วงเช้าของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคน 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน แต่งกายดีเข้ามาในโรงเรียน โดยแจ้งกับคุณครูหัวหน้าสายที่ดูแลนักเรียนระดับชั้น ป.1 ถึง ป.3 ว่า มาจากธนาคารแห่งหนึ่ง ขอทำกิจกรรมส่งเสริมการออมเงินให้กับนักเรียน และแจ้งว่าได้รับอนุญาตจากฝ่ายบริหารในการเข้ามาทำกิจกรรมแล้ว ซึ่งตรวจสอบภายหลังพบว่าฝ่ายบริหารยังไม่ทราบเรื่องและไม่ได้อนุญาตด้วยซ้ำ

นายประจวบ กล่าวอีกว่า เมื่อครูหัวหน้าสายเห็นว่าได้รับอนุญาตจากฝ่ายบริหารแล้ว ประกอบกับครูหัวหน้าสายกำลังทำการสอนนักเรียนอยู่ จึงไม่ได้ตรวจสอบกับทางฝ่ายบริหารอีกครั้ง จึงให้คนทั้ง 3 คน ทำกิจกรรมได้โดยได้นำเอาใบงานแจกให้เด็กนักเรียนทำตามห้องเรียนต่างๆ ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ป.3 รวมประมาณกว่า 100 คน ก่อนจะเก็บรวบรวมใบงานไปส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเด็กได้นำกลับไปทำที่บ้าน กระทั่งวันที่ 10 พ.ย. ได้กลับมาที่โรงเรียนอีกครั้งโดยนำเอากระปุกออมสินมาแจกให้กับนักเรียนที่ระบายสีในใบงาน แล้วกลับออกไป ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีสถาบันทางการเงินเข้ามาทำกิจกรรมมอบของรางวัล เป็นกระปุกออมสินให้นักเรียน แต่ก็จะมีการขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรและได้รับอนุญาตจากทางโรงเรียนก่อนทุกครั้ง และไม่เคยมีกรณีที่นำข้อมูลของนักเรียนไปใช้ในลักษณะเสนอขายประกันหรือบริการออมเงินแต่อย่างใด

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนต้องขออภัยผู้ปกครองทุกท่าน ซึ่งทางโรงเรียนก็ถูกคนกลุ่มนี้หลอกลวงเช่นกัน ซึ่งต่อไปทางโรงเรียนจะเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าออกของบุคคลภายนอกให้มากยิ่งขึ้น และขอยืนยันว่า ทางโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันใดๆ ทั้งสิ้น หากผู้ปกครองท่านใดตกเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ โดยทางโรงเรียนยินดีอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลทุกประการ