จากกรณีปลัดอำเภอสัตหีบ กรมที่ดิน ทหาร กำนัน เทศบาล ตรวจสอบผู้บุกรุกยึดครองที่ดินเขากระทิง พื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบหลักฐานผู้ใหญ่บ้านได้ออกหนังสือรับรองครอบครองที่ดินทรงสงวนกองทัพเรือ พบพื้นที่มีการใช้เครื่องมือหนักขึ้นแผ้วถางปรับพื้นที่ทำถนนรอบภูเขา สร้างที่พักพิง อ้างเป็นมรดกแม่ ทำพินัยกรรมยกให้แต่เพียงผู้เดียว โดยกองทัพเรือได้ปักป้ายประกาศเป็นพื้นที่ทรงสงวน ห้ามผู้ใดเข้าดำเนินการในพื้นที่จนกว่าได้รับอนุญาตจากกองทัพเรือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี ได้สั่งการให้ นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบการร้องเรียนบุกรุกที่ดินภูเขากระทิง หมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อหาข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มคนมีสีหลายสาขาอาชีพ ร่วมกับผู้อ้างสิทธิครอบครองที่ดินบริเวณรอบเขากระทิงเกือบ 100 ไร่ ขายให้กับภรรยาชาวต่างชาติ โดยมีนายยุทธนา ชมดอกไม้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ออกเอกสารตราครุฑ รับรองการครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ฉบับ รวม 95 ไร่ ให้กับ นางลำไย (สงวนนามสกุล) พักในพื้นที่ ต.บางเสร่ เพื่อเร่งพิสูจน์ให้ความจริงปรากฏต่อสังคม และหากพบผู้กระทำความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมาย

ต่อมา นายอำเภอสัตหีบ ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบหมายให้ นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ ร่วมกับ นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ นายวรฤทธิ์ จังบวร กำนันตำบลบางเสร่ เจ้าหน้าที่ทหารเรือ กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว เดินทางเข้าตรวจสอบภูเขากระทิง ปรากฏมีการบุกรุกแผ้วถางป่า ตัดต้นไม้ ขุดดิน ทำการเกษตร และทำเส้นทางรถโดยรอบภูเขา เป็นพื้นที่วงกว้าง

โดยพบกับ นายยิ่งยง เขียวหวาน ผู้ครอบครองที่ดินบนเขากระทิง ได้นำเอกสารพินัยกรรมเขียนลงนามด้วยปากกา โดยมี นางกันทวาการ พรหมนิช หรือเผ่า ผู้เป็นมารดา (เสียชีวิตแล้ว) มอบที่ดินบริเวณภูเขากระทิงนี้ให้ไว้ ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 58 แต่เพียงผู้เดียว (ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ ในการครอบครองที่ดินมายืนยัน) พร้อมยืนยันว่าที่ดินแปลงนี้ยังไม่มีการขาย หรือเปลี่ยนมือไปให้ใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะเรียก นายยุทธนา ชมดอกไม้ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.บางเสร่ มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีเอกสารตราครุฑรับรองการครอบครองที่ดินให้กับ นางลำไย มีการออกให้จริงหรือไม่ และหากจริง ด้วยสาเหตุใด จึงได้ออกหนังสือรับรองในที่ดินบนภูเขา และยังเป็นที่ดินทรงสงวน โดยไม่มีเอกสารหลักฐานครอบครองมายืนยันอีกด้วย

ด้าน นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ เปิดเผยว่า เรื่องการบุกรุกภูเขากระทิง ถึงได้ตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่เขากระทิง ได้ถูกบุกรุกแผ้วถาง เสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ และจากการตรวจสอบไม่พบมีเอกสารสิทธิในที่ดิน และกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงต้นปี 66 นายมงกรด อุ่นเรือน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชบ.1 (บางละมุง) ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ร่วมกับ นายบุญมา กรรณสูตร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว ได้เข้าแจ้งความไว้กับ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ เรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ฐานความผิดที่ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองและผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยตั้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดครองผืนป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต และนายประพันธ์ศักดิ์ ยังยืนยันว่า พื้นที่ภูเขาแห่งนี้ ไม่สามารถมีผู้ใดเข้าไปครอบครองได้ เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน

ขณะที่นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นจาก นายยิ่งยง เขียวหวาน ผู้เข้ามาบุกรุกครอบครองที่ดิน ยังปฏิเสธว่า ที่ดินแปลงนี้ยังไม่มีการขายเปลี่ยนมือให้ผู้ใด และยอมรับว่า ได้มาครอบครองที่ดินที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ซึ่งขัดแย้งกับแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ว่าที่ดินแปลงนี้ได้มีการขายเปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว จึงมีหนังสือรับรองการครอบครองที่ดินให้กับ นางลำไย ซึ่งมีสามีชาวต่างชาติ ที่เป็นผู้ซื้อที่ดินแปลงนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อมีเหตุขัดข้องเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ จึงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินให้ได้ เพราะเป็นที่ดินภูเขา อยู่ในเขตทรงสงวนที่มีกองทัพเรือดูแล ซึ่งเชื่อว่า เรื่องนี้อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา จึงขอฝากไปยังประชาชน หากจะซื้อที่ดินไม่ว่าที่ใดก็ตาม ควรให้ทางกรมที่ดินตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน ว่าที่ดินนั้นมีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ด้าน กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ หลังตรวจสอบ ได้นำป้ายมาปิดประกาศไว้บริเวณพื้นที่บุกรุก โดยประกาศว่า ที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตที่ดินทรงสงวน ยังไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาต จับจองที่ดินในเขตทรงสงวนจากกองทัพเรือ จึงห้ามผู้หนึ่งผู้ใดดำเนินการใดๆ ในพื้นที่นี้ จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากกองทัพเรือ.