เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายพยายามผูกคอตัวเอง เหตุเกิดในบ้านพัก ซอยพรหมประกาย 8 ชุมชนโพธิ์ทอง เทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี รุดไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่า เบื้องต้นมีนักศึกษาชาย 3 ราย ที่พักอยู่บ้านเช่าตรงข้ามกันเข้าไปนำตัวชายคิดสั้นลงมาจากขื่อได้ทัน ทำให้ชายคนดังกล่าวรอดตายอย่างหวุดหวิด ข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย ลูกกรงเหล็กหน้าต่างถูกพังจากด้านนอกเข้าไป
โดยมีนางนา (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ร้องตะโกนด่า นายตุ๊ (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ผู้ที่พยายามผูกคอตาย ซึ่งทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน โดยนายตุ๊ นั่งให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพปฐมพยาบาลอยู่ภายในบ้านและปฏิเสธการไปรักษาที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นนางนา ยังตะโกนด่านายตุ๊ อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระงับเหตุเพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย
นางนา เล่าว่า อยู่กินกับนายตุ๊ มาเกือบ 30 ปี มีลูกชาย 1 คน ตนป่วยเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน มาได้ประมาณ 10 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ไม่มีรายได้ จะออกไปเก็บผักตามทุ่งนามาประทังชีวิต และอาศัยเงินจากลูกชายและญาติ เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนสามีก็ป่วยเหมือนกับตนมาได้ประมาณ 5 ปี ช่วงหลังจะทะเลาะกับสามีเป็นประจำ สาเหตุมาจากสามีไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปหาเงินมาจุนเจือครอบครัว วันนี้ตนเหลืออดจึงดุด่าสามีอีก
“ระหว่างตนบ่นอยู่นั้น เขาก็ไม่พูดไม่จา ล็อกประตูหน้าบ้าน แล้วใช้เก้าอี้พลาสติกถือสายไฟฟ้าเก่าไปผูกคอตัวเองกับขื่อบ้าน ตอนนั้นตนก็พยายามตะโกนบอกให้หยุด น้องสาวเขาที่อยู่บ้านด้านหลังก็วิ่งออกมาช่วยร้องเรียกให้คนมาช่วยพังลูกกรงหน้าต่างเข้าไป แล้วก็มีเด็กนักศึกษาเข้ามาช่วย ตนไม่นึกว่าเขาจะทำแบบนี้ มันทำให้คนอื่นเดือดร้อนกันไปหมด เขาไม่ทำมาหากิน ไม่สร้างประโยชน์ ยังมาสร้างความเดือดร้อน บอกแล้วห้ามแล้วแต่เขาก็ไม่ฟัง” นางนา กล่าวด้วยความโมโห
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับ นายอภิสิทธิ์ ดวงดี นายธวัชชัย เพ็งโคตร และนายเจษฎา ลือคำหาญ ทั้งหมดอายุ 21 ปี นักศึกษา ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือ ก่อนเล่าให้ฟังว่า ระหว่างพักเที่ยงได้กลับมานั่งเล่นกับเพื่อนที่บ้านเช่า ตอนนั้นได้ยินเสียงผัวเมียทะเลาะกันบ้านที่เกิดเหตุ ไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ พวกตนจึงรีบวิ่งไปทันที
ตอนนั้นเห็นลูกกรงถูกพังแล้ว ชะโงกเข้าไปก็เห็นผู้หญิงสองคนกำลังอุ้มชายคนที่ผูกคอ พวกตนจึงปีนเข้าไปช่วยกันอุ้มอีกแรง แล้วก็ใช้มีดตัดสายไฟฟ้า เมื่อนำตัวเขาลงมาก็เปิดประตูหน้าบ้าน แล้วอุ้มเขาไปไว้ที่ชั้นล่างของบ้านอีกหลัง ระหว่างนั้นเพื่อนคนอื่นก็ได้โทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ ไม่นานกู้ชีพก็มาถึง พวกตนก็เดินกลับมาที่บ้านเช่า โชคดีมากที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้ได้ทัน เพราะตอนนั้นเขาหมดสติไปแล้ว ใบหน้าเขามีน้ำมูกน้ำลายไหลออกมาจากปาก พวกตนเช่าบ้านอยู่ที่นี่ได้ 2 ปี ครอบครัวนี้ทะเลาะกันเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้
ขณะที่ ด.ต.เจริญ เล่าว่า หลังได้รับแจ้งก็รีบไปที่เกิดเหตุ พบนักศึกษา 3 คนกำลังช่วยเหลือชายที่ก่อเหตุพยายามผูกคอตาย โดยใช้สายไฟผูกคอกับขื่อบ้าน ซึ่งมีภรรยาและน้องสาวกำลังช่วยกันยกลำตัว แต่ถ้าไม่มีนักศึกษาทั้ง 3 คนก็อาจจะเสียชีวิต ซึ่งผู้บาดเจ็บปฏิเสธที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนปัญหาเกิดจากปัญหาในครอบครัว หลังช่วยเหลือก็ได้พูดว่าไม่ควรทำอีก เพราะว่าหากเกิดการสูญเสีย ญาติพี่น้อง ผู้ที่อยู่จะทุกข์ทรมานเพียงใด ให้คิดถึงพ่อ แม่ ลูก หลาน และสัญญาจะไม่ทำอีก