เมื่อวันที่ 21 พ.ย. จากกรณีนายคมสัน สุรณัฐกุล หรือ ปลัดกล้า อายุ 47 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ขับรถตกฝายน้ำล้น ถนนสายนายาว-เขาฉกรรจ์ บ้านเกาะรัง หมู่ 10 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์ ขณะที่ จ.อ.เกริกชัย โพธิ์ทอง ปลัดอำเภอสนามชัยเขต ที่นั่งโดยสารมาข้างๆ กลับรอดชีวิต หลังใช้ปืนยิงกระจกเพื่อหนีออกมาขณะรถจมน้ำ ต่อมาผลชันสูตรศพนายคมสัน ระบุว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากจมน้ำ ส่วนผลการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอยู่ระหว่างรอผลจากห้องปฏิบัติการนิติเวชซึ่งอาจต้องใช้เวลา 30 วัน จึงจะรู้ผลนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป. นำเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ไปสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อน เรื่องราวซับซ้อน รวมถึงหลายๆ เหตุการณ์ที่ยังมีปมสงสัย ซึ่งเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยคดีดัง อาทิ คดีของพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ วางแผนจัดฉากฆาตกรรมอำพราง นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ เสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ

เจอพิรุธอื้อ! เร่งสางคดี ‘ปลัดกล้า’ ขับรถตกน้ำดับปริศนา อุบัติเหตุหรือจัดฉากฆ่าอำพราง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเคลือบแคลงนั้นคือร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์บริเวณขมับขวา และใบหูด้านซ้ายที่ฉีกขาด จำเป็นต้องเร่งพิสูจน์ให้ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากลักษณะบาดแผลที่พบนั้นไม่สอดคล้องกับลักษณะการเกิดเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร เช่นเดียวกับสภาพตัวรถหลังเกิดอุบัติเหตุที่แทบจะไม่มีร่องรอยความเสียหายจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ได้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมหรือลักษณะทางกายภาพที่เกิดเหตุเป็นถนนคันกั้นฝายน้ำล้น พื้นผิวดินในน้ำมีลักษณะเป็นดินเลน ไม่มีวัตถุหรือของแข็งใต้น้ำ เช่นเดียวกับไม่มีรั้วขอบทางด้านข้างที่จะเป็นสิ่งกีดขวางทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุนแรงได้ อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนชุมชนมีน้ำไหลผ่านจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้เหมือนถนนปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้บาดแผลทั้งสองแห่งจะไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตโดยตรง แต่ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลทำให้ผู้ตายจมน้ำเสียชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากห้องปฏิบัติการนิติเวช รพ.ตำรวจ ออกอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีจะเร่งประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอบปากคำเพื่อพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่าบาดแผลดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และเป็นแผลที่ถูกทำให้เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุโดยตรงเพื่อจะได้สามารถกำหนดทิศทางในการคลี่คลายปริศนาทางคดีว่าเป็นคดีอุบัติเหตุหรือคดีฆาตกรรมอำพราง

ปลัดอำเภอขับรถตกฝายน้ำล้นดับ 1 รอด 1 ที่ศพพบรอยคล้ายรูกระสุนที่หัว

นอกจากนี้ยังมีข้อพิรุธทางคดีหลายอย่างที่ต้องพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับคำให้การของ จ.อ.เกริกชัย ผู้รอดชีวิต ที่เคยให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มเบียร์กับผู้ตายและผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่บ้านพักห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก โดยนั่งดื่ม 3 คน รวม 9 ขวด จากนั้นประมาณ 21.00 น. จ.อ.เกริกชัย กับผู้ตายขอตัวกลับ โดยมีผู้ตายเป็นคนขับ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งตกน้ำ จ.อ.เกริกชัย จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงกระจกจนแตกแล้วมุดหนีเอาตัวรอดออกมาจากตัวรถ แต่จังหวะนั้นผู้ตายหนีไม่ทันติดอยู่ในรถจึงเสียชีวิต ขณะที่จ.อ.เกริกชัย ได้รีบว่ายเข้าฝั่งไปนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ จนกระทั่งมีคนผ่านมาพบและเข้าให้การช่วยเหลือในรุ่งเช้าอีกวัน

ซึ่งคำให้การดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีความย้อนแย้งอยู่ในตัว เพราะหาก จ.อ.เกริกชัย มีสติสามารถเอาตัวรอดจากช่วงเวลาวิกฤติขนาดนั้นได้ เหตุใดจึงไม่รีบเดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่พักอาศัยห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 3-4 ร้อยเมตรหลังจากเกิดเหตุในทันที แต่กลับนั่งรอใต้ต้นไม้จนถึงเช้า แม้เจ้าตัวจะอ้างว่ากำลังอยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัวก็ตาม แต่ก็ดูไม่สมเหตุสมผล ส่วนกรณีที่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 1 เครื่องอยู่กับจ.อ.เกริกชัย นั้น อ้างว่าตกใจช่วงเกิดเหตุจึงรีบคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ใกล้ตัว พร้อมกับอาวุธปืนติดตัวมา ไม่ทันได้ดูว่าเป็นของผู้ตาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก จำเป็นต้องเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบความผิดปกติเกี่ยวกับสภาพศพของผู้ตาย เพราะขณะที่ทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำพบว่า สภาพศพอยู่ในท่าขาเหยียดตรง มือข้างขวากำพระเครื่องไว้จนแน่น ต่างจากสภาพศพของคนขับรถตกน้ำตายทั่วไป ที่มักจะอยู่ในสภาพท่านั่งขับรถ อีกทั้งจากการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้รอดชีวิต พบว่ามีการยิงทั้งหมด 4 นัด กระสุนออกจากรังเพลิง 3 นัด ขัดลำกล้อง 1 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์รอยวิถีกระสุน

รายงานข่าวระบุด้วยว่า จากข้อพิรุธดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก นำเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ไปสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพราะเป็นคดีละเอียดอ่อน เรื่องราวซับซ้อน รวมถึงหลายๆ เหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกับคดีของ พ.ต.ท.บรรยิน