เมื่อวันที่ 22 พ.ย. จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาวบ้าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวอ้างว่า ถูกสามีที่จดทะเบียนสมรสด้วยกันทำร้ายร่างกายก่อนถีบหัวส่ง หลังจากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ ได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ตอนนี้ตัวเองต้องกลับมาอาศัยอยู่กับแม่และลูกสาววัย 3 ขวบ ตามลำพัง ขณะที่สามีซึ่งอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ประกาศมีภรรยาใหม่แล้ว ตนอยากจะหย่าขาดจากสามีให้เรื่องราวมันจบ และขอแบ่งทรัพย์สินบางส่วนมาไว้สำหรับเลี้ยงลูก พร้อมวิงวอนให้ผู้รู้กฎหมายหาวิธีช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายบี (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ผู้เป็นสามี ที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยนายบี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นตนไปทำงานขับรถอยู่ต่างจังหวัด ตนกับ น.ส.เอ รู้จักกันโดยการแนะนำของเพื่อนและได้อยู่กินกันมากว่า 3 ปี และหลังจากที่ตนถูกรางวัลที่ 1 ก็ได้ย้ายกลับมาที่ จ.เพชรบูรณ์ โดย น.ส.เอ ได้ร้องขอให้ตนนำเงินไปใช้หนี้ให้แม่ยายและพี่ชาย ตนจึงโอนไปใช้หนี้ให้กว่า 7 แสนบาท ส่วนที่เหลือก็นำมาใช้หนี้ของครอบครัวตนเอง รวมทั้งซื้อที่ดิน และสร้างบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้เงินในบัญชีตนก็ไม่มีแล้ว

ไม่เหมือนที่ฝันไว้! ผัวขับสิบล้อถูกหวย 12 ล. ดื่มเหล้าเมาซ้อมถีบหัวส่งอ้างมีเมียใหม่

ส่วนที่ว่าเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 ลูกสาวเป็นคนจับตัวเลขและภรรยาเป็นคนโทรฯ บอกให้ซื้อนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งตอนนั้นตนทำงานขับรถอยู่ต่างจังหวัด ในช่วงเช้าได้ไปซื้อกับข้าวและได้ซื้อลอตเตอรี่แผงข้างๆ ร้านขายกับข้าวมา 2 ใบ และภรรยาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนซื้อลอตเตอรี่ ส่วนเงินหลังจากถูกรางวัลแล้ว ภรรยาก็ได้ร้องขอให้นำไปใช้หนี้ให้แม่ยาย ซึ่งตนก็นำไปใช้ให้ ส่วนตัวภรรยานั้น ตนก็ให้ใช้มาโดยตลอด ไม่เคยให้ได้อดอยากเลย การดื่มเหล้านั้น นานๆ ตนจะดื่มที แต่ก็ไม่เคยเมามายจนทำร้ายภรรยาเลย

ส่วนในวันที่ภรรยาและลูกๆ หนีไปนั้น น่าจะมาจากในคืนดังกล่าว ตนและญาติๆ ได้ซื้อหมูมาย่างเพื่อเลี้ยงส่งลูกชายภรรยาเก่าของตนเองที่จะไปเป็นทหารในวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ร่วมนั่งล้อมวงกินกันอย่างมีความสุข ยกเว้นภรรยาของตนเองที่ไม่มาร่วม ซึ่งขณะนั้นลูกสาววัย 3 ขวบ บอกว่าอยากกินหมูย่าง ลูกชายตนที่จะไปเป็นทหารจึงได้ป้อนให้กิน แต่แล้วจู่ๆ ภรรยาก็เดินมาดึงตัวลูกสาวออกไป พร้อมทั้งใช้มือตีจนลูกสาวร้องไห้ แม่ของตนจึงเดินไปต่อว่าลูกสะใภ้ ว่าตีลูกสาวทำไม จึงอาจจะทำให้ภรรยาไม่พอใจ โทรฯ ให้แม่ที่อยู่บุรีรัมย์มารับ โดยที่ตนและแม่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามารับตอนไหน ส่วนที่จะมาฟ้องร้องขอหย่าและขอส่วนแบ่งนั้น ตนบอกได้เลยว่า ถ้าจะหย่าก็จะหย่าให้ แต่เงินไม่มีให้แล้ว ส่วนลูกสาวหากไม่เลี้ยง ตนก็จะขอรับมาเลี้ยงดูเอง

ด้านแม่ของนายบี กล่าวว่า ตั้งแต่ น.ส.เอ เข้ามาอยู่ในบ้า นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย แม้กระทั่งงานบ้านงานเรือน แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นว่าเป็นภรรยาของลูกชาย และก็ไม่เคยดุด่าอะไรเลย ส่วนที่บอกว่าลูกชายของตนเมาแล้วทุบตีนั้นไม่เป็นความจริง และตอนที่หนีกลับไปบ้านที่บุรีรัมย์นั้น ก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกันเลย ตนและลูกชายไม่ได้ไล่ออกจากบ้าน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด