เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวลี้ลับ เกิดขึ้นกับครอบครัว คุณยายปิ่น อายุ 78 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ดวงตาทั้งสองข้างฝ้าฟาง อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ทุ่มเทชีวิตเฝ้าดูแลหลานสาว น้องขิง วัย 9 ขวบ เรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ที่ล้มป่วยเดินไม่ได้แบบไม่มีสาเหตุ ต้องหยุดเรียนหนังสือ หมดหนทางหาวิธีรักษา จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

ยายปิ่น เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 66 เป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียน อยู่ๆ หลานสาวเริ่มก็มีอาการปวดขาขวาถึงขั้นเดินไม่ได้ ทุกวันต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ เมื่อได้ยินเสียงหลานสาวร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด พาไปตรวจรักษากับหมอในโรงพยาบาลมาแล้วหลายแห่ง หมอยืนยันว่า ร่างกายปกติ หาสาเหตุของการเจ็บปวดไม่พบ ประกอบกับ หลานสาวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก้าวร้าว พูดจาหยาบคาย ด่าว่าผู้ใหญ่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เป็นเด็กดีเรียบร้อย ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือพูดจาคำหยาบ มาก่อน

ยายปิ่น เผยอีกว่า เหตุนี้ทำให้เชื่อมั่นว่า หลานสาว ต้องถูกสิ่งลี้ลับครอบงำ คุณยายไหม พี่สาวคนโตตน จึงพากันไปหาร่างทรงองค์ท้าวเวสสุวรรณ ช่วยเหลือ ซึ่งต้องเสียค่าครู 500 บาท โดยร่างทรงบอกว่าหลานสาวได้ไปกระทำการลบหลู่ ด้วยการไปเหยียบกระทงบัตรพลี ซึ่งภายในกระทงมีกระดูกวิญญาณผีตายโหง ทำให้ดวงวิญญาณเกาะกินบริเวณขาขวา และเกาะกินบุญของหลานสาว หากต้องการรักษา ต้องเสียค่าทำพิธี 1,500 บาท หากปล่อยไว้นาน อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้

ยายปิ่น เผยว่า ด้วยฐานะยากจน จึงไม่มีเงินเสียค่าทำพิธีรักษาหลานสาวได้ ทำให้ในทุกวัน ชีวิตต้องทนเห็นหลานสาวอยู่อย่างทุกข์ทรมาน รู้สึกเวทนาสงสาร เป็นเช่นนี้มานานร่วม 7 เดือน และเวลาหลานสาวมีอาการปวดขากำเริบ ก็จะนำน้ำมนต์ที่ได้มาจากวัด อาราธนาให้หลานสาวดื่มกิน และประพรม อาการเจ็บปวดก็จะทุเลาลง แต่ก็จะกลับมาเป็นใหม่ ไม่ได้ช่วยทำให้หายขาด อีกทั้งถ้าบอกจะพาไปหาพระรักษา ก็จะหวีดร้องแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดไม่ยอมไป

“จึงขอวิงวอนต่อผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ที่เข้าถึงเรื่องราวอันลี้ลับ สื่อสารดวงวิญญาณ ให้มาช่วยเหลือ ทำให้ชีวิตหลานสาวหลุดพ้นบ่วงกรรม ที่กำลังถูกวิญญาณผีตายโหงเกาะกิน ตามคำทำนายของร่างทรงองค์ท้าวเวสสุวรรณ ให้ได้กลับมามีชีวิตที่เป็นปกติสุขอีกครั้ง โดยไม่คิดค่ารักษาแต่อย่างใด” ยายปิ่น กล่าว