เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 พ.ย. มีรายงานความคืบหน้ากรณี เยาวชน อายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เข้าสอบปากคำเยาวชน อายุ 14 ปี หลังจากเข้ารักษาตัวและประเมินอาการป่วยจากแพทย์ผู้รักษา กระทั่งสามารถที่จะให้ปากคำได้

โดยเยาวชนคนนี้ให้การภาคเสธ ยอมรับในเรื่องของอาวุธปืน และให้การเกี่ยวกับอาวุธปืน แต่ไม่รับในข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ โดยอ้างว่า ทำไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้คาดว่าพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการ ภายในสัปดาห์หน้านำตัวเยาวชนไปพบอัยการ

เด็ก 14 กราดยิงนอนสถานพินิจฯ คืนแรก ‘วิตกกังวล-พูดน้อย-ไม่อยากอาหาร’

สำหรับเยาวชนวัย 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ถูกดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่า , มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต.

ทั้งนี้ด.ช.วัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุยิงกราดในห้างสยามพารากอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นนักท่องเที่ยวสาวจีน สาวคนงานเมียนมา และสาวไทย มีบาดเจ็บอีก 4 ราย ภายหลังเจ้าหน้าที่จับกุมส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวพ.ศ.2553 ยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุม หลังถูกจับภายใน 24 ชั่วโมง ศาลไตร่สวนแล้วพบว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องขณะจับกุมผู้ต้องหากระทำผิดจริง

ส่วนขอให้ศาลส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แพทย์จิตเวช สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อรักษาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถต่อสู้คดีได้นั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้นำแพทย์ผู้ทำความเห็นมาให้ศาลได้สอบถาม หรือไต่สวนให้ฟังได้ว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตจริง ยังไม่ยุติว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตเวช เห็นควรส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร และให้สถานพินิจฯ ดำเนินการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา โดยส่งตัวผู้ต้องหาเข้ารับการประเมินสุขภาพจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แทนการคุมตัวไว้ที่สถานพินิจฯ

การประเมินจะร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายส่วน อาทิ นักสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาชีพอื่นๆ เป็นต้น ไม่เพียงเฉพาะจิตแพทย์เท่านั้น เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ครบถ้วนมากที่สุด โดยการประเมินของหน่วยงานแต่ละฝ่ายเสร็จสิ้นแล้วรอผลสรุปร่วมว่าเด็กมีอาการทางจิตหรือไม่  เตรียมส่งเด็กกลับมาสถานพินิจฯระหว่างนี้ให้ตำรวจเข้าไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาและรอรวมผลสรุปด้านจิตเวชผู้ต้องหา ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป