นักร้องเสียงดี จินตหรา พูนลาภ ที่ล่าสุดตัดสินใจออกมาเผยปาฏิหาริย์งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ขนลุกเรือโผล่กลางแม่น้ำโขง พร้อมย้อนเล่านาทีระทึกวิ่งหลบกระสุน หวิดเอาชีวิตไม่รอด ผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

จินตหรา เผยว่า “เรื่องสายมู อันนี้คือความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ สำหรับตัวพี่จินจะเชื่อว่าเราเกิดมาที่ได้อยู่ในวงการบันเทิง น่าจะมีกราฟชีวิต อะไรที่ขีดให้เรามาเดินตรงนี้ พอเรามาอยู่ตรงนี้พี่จินจะนับถือคุณพ่อ คุณแม่ ครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็กราบไหว้หมดเลย โดยเฉพาะแบบนับถือพญานาค ไปทุกสถานที่ก็จะสักการบูชา เราเชื่อว่าทุกสิ่งอย่างที่เราไปอยู่ตรงนั้น ไปทำมาหากินตรงนั้น ไปใกล้ท่าน ท่านต้องมีเจ้าที่ เจ้าทาง อย่างเช่นพี่จินร้องเพลงเกี่ยวกับพญานาค ท่านทำให้เรามองไม่เห็น แต่เราก็เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ หลายครั้งที่ร้องเพลงเกี่ยวกับพญานาค มีครั้งนึงกลางคืนไปพักโรงแรมที่นครพนม ข้อมือเคล็ดไม่รู้เกิดจากอะไร มันกระดิกไม่ได้เลย แล้ววันนั้นที่โรงแรม น้ำไม่ค่อยไหลเยอะ เราต้องใช้ขันตักอาบ เราประคองขันไม่ได้เลย ตอนเช้าเราต้องมีถ่าย MV บวงสรวง กลางคืนเราเหมือนเป็นโรคง่อย แขนชา ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร สงสัยนั่งรถมานาน คงไม่ได้พักผ่อน คิดว่าจะไม่หาย ทีนี้ตอนกลางคืนก็ขอพร องค์ปู่เจ้าขาลูกหลานมาครั้งนี้มาสักการบูชาไหว้ท่าน ขอพรท่านวันพรุ่งนี้ทำงาน สิ่งใดที่ลูกผิดพลาดขอให้ท่านทำให้ลูกราบรื่นแล้วหาย ตื่นมาตอนเช้าอาการหายเป็นปลิดทิ้งเลย เราเลยรู้สึกว่าท่านมาบอก อีกเรื่องเป็นตอนที่ถ่ายเพลงล่าสุด ตอนบวงสรวงบอกว่าลูกหลานขออนุญาตใช้ชื่อท่านร้องในเพลง จะเผยแพร่ไปทั่วโลก อะไรที่ทำผิดขอประทานอภัย อะไรที่ทำถูกขอให้ส่งเป็นสิ่งที่ดี พอไปถ่ายเครื่องเสียงกับกล้องเค้าเซตมาอย่างดีรอเรา พอถ่ายกล้องไม่ติด เครื่องเสียงไม่ติด แต่ช่วงที่กล้องไม่ติดเป็นช่วงเดียวกับที่พระอาทิตย์ทรงกลด ทีมงานไปเห็นพอดี พี่จินไม่รู้นะ เลิกงานแล้วถึงมาเล่าให้ฟัง เราเลยมีความเชื่อว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ท่านมาดลให้เรา มันหลายรอบ หลายครั้ง รู้สึกเลยว่าท่านรับรู้สิ่งที่เราทำ”

“เราพูดในใจว่าเราทำอะไรผิดมั้ย เราก็พูดขออยู่ในใจให้ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิดพลาดขออภัย สักพักนึงทุกคนได้ทำงานเลย ลมเย็นสบาย เรากลัวการนั่งเรือออกไปถ่ายทำ บอกทีมงานหมดแล้วว่าเรากลัวอะไรที่มันเสี่ยงๆ เค้าก็บอกว่าถ้าถ่ายในเรืออยู่แถวๆ เทียบฝั่งไม่ได้ออกกลางแม่น้ำหรอก ในขณะที่รอในเรือถ่ายรูปเล่นกัน สักพักนึงเรือไหลไปอยู่กลางแม่น้ำ คนขับเรือเค้าไม่รู้เค้าคิดว่าให้ขับไปกลางน้ำ เรือไปอยู่ใกล้ตรงที่รูปปั้นพญานาคพ่นน้ำออกมา เหมือนเรารับน้ำมนต์เลย คนอาจจะมองเรางมงาย เข้าใจค่ะ แต่สิ่งที่เราคิดปฏิบัติและระลึกถึง ผลลัพธ์ที่กลับมาได้อย่างต่อเนื่อง เราทำอะไรเราไม่ลบหลู่”

จินตหรา เล่าต่อว่า “เรื่องไปคอนเสิร์ตวิ่งหลบกระสุน ไปเล่นแถวระยอง คอนเสิร์ตจะจบแล้วเหลือ 2 เพลงสุดท้าย เราก็เล่นเต้นๆๆ เค้าเริ่มขึ้นแล้ว เริ่มขึ้นตั้งแต่กลางคอนเสิร์ตแล้ว เขม่นกัน เราสังเกตอยู่ พอเพลงฟ้าผ่าเปรี้ยงเค้าก็ซัดกันเลย ไล่กัน ตีกันจนเลือดแตก มุดใต้เวทีเราก็แตกตื่น เราขี้กลัว เราก็วิ่งสวนกับถือไม้ที่ตีกัน รีบวิ่งขึ้นรถตู้ ตกใจ เราก็บอกคนขับรถตู้ออกรถเลย กลัวเค้ารู้ว่าเราเป็นนักร้อง รถตู้ขับมาถึงปั๊มพี่ถอดเสื้อผ้านักร้องออกหมดเลย คนเราตกใจลงรถไปเข้าห้องน้ำทั้งที่ถอดชุดแล้ว แต่โชคดีที่มีถุงน่อง คิดว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าอยู่ ซึ่งในตอนมันฉุกเฉิน เค้าไล่ตีกันมา รถนี้เป็นรถนักร้องหรือเปล่า กลัวเป็นเรื่องเป็นราว เราคิด เราเลยรีบเปลี่ยนชุด ชุดที่เราใส่มันเกะกะ ยังไม่พอ พอมันซาแล้ว ทางงานเค้าหาไมค์ไม่เจอ เราถือไมค์มาเรายังไม่รู้สึกเลยว่าเอาไมค์เค้ามา ต้องขับรถเอาไมค์ไปคืนเขา”