แมทธิว เบชโทลด์ นายแพทย์หัวหน้าแผนกระบบทางเดินอาหารแห่งมหาวิทยาลัยมิสซูรี สหรัฐอเมริกา เผยกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ กรณีพบแมลงวันเป็น ๆ ในลำไส้ใหญ่ของคนไข้ในระหว่างการตรวจลำไส้แบบส่องกล้อง โดยเป็นกรณีศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ระบบทางเดินอาหารอเมริกัน เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา

เบชโทลด์ เป็นคนคีบแมลงวันตัวดังกล่าวออกมาจากลำไส้ของคนไข้ และยืนยันว่ามันตายแล้ว

ก่อนหน้านี้ คนไข้วัย 63 ปี มาหาหมอที่โรงพยาบาลตามนัดตรวจส่องกล้อง เขาดื่มยาระบายในวันก่อนที่เข้ามาตรวจ และไม่รู้เลยว่ามีแมลงวันอยู่ในลำไส้ของตัวเอง

คนไข้เล่าว่าก่อนที่จะมาตรวจส่องกล้องราว 2 วัน เขารับประทานพิซซ่าและผักกาดหอมเป็นอาหารเย็น แต่ไม่เจอแมลงวันอยู่ในอาหารของเขา

การพบแมลงวันในลำไส้คนครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และยังคงหาคำอธิบายไม่ได้ว่าแมลงวันตัวดังกล่าวเข้าไปอยู่ในลำไส้ใหญ่ส่วนขวางได้อย่างไร

ทั้งนี้ ลำไส้ใหญ่ส่วนขวางเป็นลำไส้ใหญ่ส่วนที่ยาวที่สุดและมีการเคลื่อนไหวมากที่สุด คุณหมอเบชโทลด์ ชี้ว่า แมลงวันเจ้ากรรมตัวนี้อาจจะเข้าไปอยู่ในลำไส้ใหญ่ส่วนขวาง โดยผ่านเข้าไปในร่างกายของคนไข้ทางปากหรือทางช่องทวารหนัก แต่ก็เป็นไปได้ยากมากเพราะถ้าหากแมลงวันเข้าไปทางปาก มันก็น่าจะโดนย่อยโดยเอนไซม์ย่อยอาหารที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารส่วนบนและกรดจากกระเพาะอาหาร ไม่น่าจะรอดมาเกาะอยู่ในลำไส้โดยที่ไม่บุบสลายดังที่เห็น 

แต่การที่แมลงวันจะเข้าสู่ร่างกายของคนโดยผ่านทางช่องทวารหนักก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเช่นกัน เพราะช่องทางภายในลำไส้จะต้องเปิดโล่งและกว้างมากพอที่แมลงวันตัวหนึ่งจะบินเข้าไปในส่วนของลำไส้ใหญ่โดยไม่โดนบีบรัดจนไปถึงบริเวณที่อยู่ตรงกลางของลำไส้ทั้งขด

นอกจากนี้ ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือมันผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของคนในสภาพของไข่แมลงวันหรือตัวอ่อนที่อยู่ในอาหาร แต่กรณีนี้ก็อาจทำให้เกิดโรคแผลหนอนแมลงวันในลำไส้ ซึ่งเกิดจากการที่ตัวอ่อนแมลงวันกินเนื้อเยื่อในร่างกายคนที่อยู่รอบตัวมัน 

ผู้ป่วยโรคนี้บางรายจะไม่แสดงอาการออกมา แต่ก็มีบางรายที่จะรู้สึกปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนและท้องเสียได้

ที่มา : businessinsider.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES