เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ย. 66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พ.ต.ท.สุรพล เห็มไธสง สว.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.1 พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.1 จนท.ตร.สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตร.ไซเบอร์ ) และ จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.เพ เข้าร่วมจับกุมตัว นายสมปอง อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดระยอง หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการเครือข่าย หลอกทำภารกิจกระตุ้นยอดขาย อ้างตัวเป็น “Shopee Thailand” ตามหมายจับศาลอาญาศาลอาญามีนบุรี
จากการสอบสวนทราบว่านายสมปอง เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ผู้เสียหายได้เข้าใช้งานแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ต่อมาได้มีคนร้ายติดต่อชักชวนให้ทำงานออนไลน์ โดยแจ้งว่าเป็นการทำภารกิจเพื่อเพิ่มยอดการขายสินค้า ให้กับแบรนด์สินค้า “Shopee Thailand” อ้างว่ารายได้ผลตอบแทนดี ผู้เสียหายมีความสนใจจึงได้ติดต่อพูดคุยกับคนร้ายต่อทางแอปพลิเคชัน Telegram โดยวิธีการทำภารกิจ คนร้ายจะส่งลิงก์สินค้าจากแอปพลิเคชัน Shopee Thailand ให้กดเลือกสินค้าใส่ตะกร้า จากนั้นเพียงแคปภาพหน้าจอสินค้าส่งแอดมิน ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ ซึ่งจากการทดลองทำภารกิจในครั้งแรก ด้วยการโอนเงินไป จำนวน 500 บาท ปรากฏว่าได้รับเงินตอบแทนเข้าบัญชี จำนวน 550 บาท ซึ่งได้กำไร 50 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงเริ่มทำภารกิจต่อไป และโอนเงินจำนวนที่มากขึ้นให้กับคนร้าย สรุปผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารคนร้ายไปทั้งหมด จำนวน 13 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9,242,029 บาท เมื่อต้องการที่จะถอนเงินหรือยอดกำไร จะยังไม่สามารถถอนเงินได้ คนร้ายจะอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ ให้โอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ เช่น จะต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อน หรืออ้างว่าผลกำไรที่ได้รับนั้นยอดสูงเกินไป จะต้องเติมเงินเพื่ออัพเกรดเป็นระดับ VIP ถึงจะสามารถถอนเงินได้ สุดท้ายแล้วไม่ได้รับเงินคืน และไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ จึงทราบว่าถูกหลอกลวงทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งขบวนการนี้ ได้มีผู้เสียหายร้องทุกข์มาในลักษณะเดียวกัน สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท โดยนายสมปองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน ปี 2566 ที่ผ่านมา มีเพื่อนร่วมงานได้มาชักชวนตนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยทำการเปิดบัญชีแบบออนไลน์ แล้วให้ไปยืนยันตัวตนที่ เซเว่น อีเลฟเว่น ตนเปิดไปจำนวน 3 บัญชี ได้รับค่าตอบแทนจากเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300-500 บาทต่อบัญชีเท่านั้น โดยผู้ว่าจ้างดังกล่าว แจ้งแค่ว่าเอาบัญชีไปใช้ในเว็บพนันสล็อตอย่างเดียว และให้เปิดเพียงแค่ 14 วัน แล้วค่อยทำการปิดบัญชีหรืออายัดบัญชีภายหลัง โดยตนไม่ทราบมาก่อนเลยว่า บัญชีของตนถูกนำไปใช้หลอกลวงบุคคลอื่น
ต่อมา จนท.ตร. สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลมีนบุรี ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งนายสมปองได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง และทำอาชีพขับเรือเร็วรับส่งผู้โดยสารข้ามเกาะเสม็ด โดย จนท.ตร. จับกุมได้ที่ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด จ.ระยอง
เบื้องต้น จนท.ตร. ได้แจ้งข้อกล่าวหานายสมปอง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
