เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติที่ประชุม ครม.เห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอ โดยมีเป้าหมายการปรับฐานเงินเดือนใหม่และรายได้ต่างๆ ให้กับผู้ที่จบปริญญาตรีและระดับปวช. ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ ทั้งนี้ตามผลการศึกษาของสำนักงาน ก.พ. แบ่งรายละเอียดออกเป็นกลุ่ม ดังนี้ 1.การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่บรรจุใหม่จะปรับเพิ่มให้ 2 กลุ่ม โดยให้ภายใน 2 ปี จะปรับเพิ่มปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วย ผู้จบปริญญาตรี ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 18,000 บาท ผู้จบการศึกษาระดับปวช. ได้รับไม่ต่ำกว่าเดือนละ 11,000 บาท  2.เงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยข้าราชการเดิมที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่าฐานของข้าราชการบรรจุใหม่ จะให้มีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยย้อนหลังให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

นายชัย กล่าวอีกว่า 3.เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว โดยมีการปรับฐานเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวจากเพดานเดิม แบ่งเป็นข้าราชการ ที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 13,285 บาท เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 14,600 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็น 11,000 บาท หากใครที่ได้รับเงินไม่ถึงจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

นายชัย กล่าวว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งนี้จะใช้งบประมาณในปีแรก คือปีงบประมาณ 2567 วงเงินประมาณ 7,200 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 คือ ปีงบประมาณ 2568 วงเงินประมาณ 8,800 ล้านบาท แต่สำหรับการดำเนินการในปีแรกงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นวงเงินที่ใช้จริงจึงใช้แค่ 5 เดือน ส่วนงบประมาณช่วยเงินค่าครองชีพชั่วคราว ตั้งงบประมาณไว้ปีละไม่เกิน 3,000 ล้านบาท  ทั้งนี้ ครม.มีมติเห็นชอบและให้หน่วยงานต่างๆ ไปดำเนินการได้เลย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2567