สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ได้สั่งให้คณะผู้แทนเจรจาเรื่องการหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส เดินทางกลับจากการ์ตา ซึ่งเป็นประเทศคนกลางแล้ว เนื่องจากกลุ่มฮามาสละเมิดเงื่อนไขของการสงบศึก ที่รวมถึงการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ “อย่างต่อเนื่อง”


ขณะที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่แถลงการณ์ชองนายซาเลห์ อัล-อารูรี รองผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมือง ว่าจะไม่มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์อีก จนกว่าสงครามจะยุติ

ระบบป้องกันไอเอิร์นโดมของอิสราเอล สกัดจรวดลูกหนึ่งของกลุ่มฮามาส ในเขตน่านฟ้าทางตอนใต้ของอิสราเอล


อนึ่ง อิสราเอลและกลุ่มฮามาสสงบศึกกันได้ต่อเนื่อง 7 วัน ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.- 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลแล้ว 80 คน โดยมีหลายคนถือสองสัญชาติ ชาวไทย 23 คน และชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ส่วนอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์แล้ว 240 คน


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงอิสราเอลระบุว่า กลุ่มฮามาสยังคงควบคุมตัวประกันไว้อีก 137 คน แบ่งเป็นชาวอิสราเอล 126 คน โดยบางส่วนอาจถือสองสัญชาติ ชาวไทย 8 คน ชาวเนปาล 1 คน ชาวแทนซาเนีย 1 คน และชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเม็กซิกัน 1 คน นอกจากนี้ มีรายงานตัวประกัน “ยังสูญหาย” อีก 7 คน ซึ่งยังไม่มีการระบุสัญชาติ

ประชาชนขนย้ายสิ่งของ เพื่อเตรียมอพยพออกจากชุมชนแห่งหนึ่ง ในเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา


ทั้งนี้ อิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงกล่าวโทษกันไปว่า ว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน ส่งผลให้ความพยายามพักรบมีอันต้องสิ้นสุด เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา และกลับมาโจมตีกันอย่างหนักหน่วง โดยกลุ่มฮามาสระดมยิงจรวดเข้ามาใกล้ถึงกรุงเทลอาวีฟ

ส่วนกองทัพอิสราเอลขยายขอบเขตของปฏิบัติการทางทหาร ออกจากภาคเหนือของฉนวนกาซา ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายหลายแห่งทางใต้ด้วย ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน


ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เรียกร้องอิสราเอลและกลุ่มฮามาส “หยุดยิงในระยะยาว” ส่วนกาตาร์ยืนยัน การเจรจายังคงดำเนินต่อ และประณาม “ทุกฝ่ายที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์”.

เครดิตภาพ : AFP