เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุขวุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย โดยระบุว่า Pfizer ขนาดเพียง 1/3 ของโด๊สปกติ เมื่อฉีดเด็ก 5-11 ขวบ ได้ผลดี คาด อย.สหรัฐ อนุมัติปลายตุลาคมนี้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก เป็นเรื่องที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะงานวิจัยส่วนใหญ่ ทำในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

ผู้บริหารบริษัท Pfizer ได้แถลงความคืบหน้าถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี หลังจากที่วัคซีนของบริษัท ได้รับการอนุมัติให้ฉีดใสนสถานการณ์ฉุกเฉินในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว

โดยการศึกษาครั้งนี้ ทำในอาสาสมัครเด็กจำนวน 2268 ราย ฉีดวัคซีนปริมาณเพียงหนึ่งในสามของขนาดปกติคือ ขนาด 10 ไมโครกรัม จากที่ปกติฉีด 30 ไมโครกรัม โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สองเข็มห่างกัน 21 วัน

พบว่ามีความปลอดภัยดี มีผลข้างเคียงเล็กน้อย คล้ายกับผู้ใหญ่ เช่น เจ็บตำแหน่งที่ฉีด เพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และมีไข้ ซึ่งหายไปได้ในเวลาไม่กี่วัน ส่วนระดับภูมิคุ้มกัน ก็พบว่าขึ้นได้ดีไม่แตกต่างกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่

ทำให้ทางบริษัทมีความมั่นใจว่า จะสามารถส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับทาง USFDA ได้ภายในปลายเดือนนี้ และถ้าคำนวณจากระยะเวลาที่ทาง USFDA เคยตรวจเพื่ออนุมัติสำหรับวัคซีนเด็กโตแล้ว ก็คาดว่า บริษัทน่าจะได้รับการอนุมัติให้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปีได้ภายในปลายเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นข่าวดีมาก สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะในเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา เคสโควิดที่พบในเด็กเพิ่มขึ้นถึง 240% คิดเป็น 28.9% ของเคสทั้งหมด หลังจากที่มีไวรัสเดลตาระบาดแล้ว

บริษัท Pfizer ยังได้ทำการทดลองเพิ่มเติมอีกสองกลุ่มได้แก่ อายุ 2-5 ขวบ และหกเดือนถึงสองขวบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นขออนุมัติได้ในไตรมาสสี่ของปีนี้ ในอีกซีกโลกหนึ่งคือประเทศจีน ก็ได้ทำการทดลองฉีดในอาสาสมัครเด็กตั้งแต่อายุ 3-17 ปี ซึ่งถือว่ามีคนในก็ได้ผลดีเช่นกัน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ คงจะมีทั้งวัคซีนเทคโนโลยี mRNA และวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในเด็กได้ ก็จะทำให้การเปิดโรงเรียนและการที่เด็กจะไปมีกิจกรรมต่างๆมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ขอบคุณเพจ ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย