เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ ( 3 ธ.ค.66) พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภาภรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ต.ปภินวิช มีชีพสม สว.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เชิญตัว นายต่อ (ขอสงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 23 ปี นายโอ๊ต (ขอสงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 20 ปี และ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง จยย.ยามาฮ่า รุ่น N-MAX สีดำทะเบียน 2 ขว 8250 กทม. มาสอบสวนที่สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 1 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้ง 3 คนขี่จยย.ซ้อนกันมา โดยมี นายต่อ เป็นคนขับ นายเอ ซ้อนตรงกลาง และนายโอ๊ต เป็นคนซ้อนท้าย โดยทั้งหมดขี่จยย.ไปประกบ จยย.ของ นายเก่ง (นามสมมุติ) และ นายบอย (นามสมมุติ) นักศึกษา ปวช.ปี 3 สถาบันอาชีวะชื่อดังในพื้นที่ จากนั้น นายเอ ก็ง้างมีดจะฟัน ทำให้นายเก่งและนายบอบเสียหลักล้มคว่ำกลางเกาะกลางถนน มีแผลถลอกตามร่างกายและขาขวามีแผลฉีกขาด โชคยังดีที่รถขับตามหลังมาอีกเลนสามารถเบรกได้ทัน ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ภายหลังทั้งสองถูกนำส่งรักษายังรพ.พระนั่งเกล้าให้แพทย์รักษาอาการ ขณะที่ผู้ก่อเหตุขี่จยย.หลบหนีไป

จากการสอบสวน นายเอ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนซ้อนจยย.มากับเพื่อนรุ่นพี่ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ พบจยย.ของคู่กรณีขี่มามองหน้า ตนจึงตะโกนบอกให้รุ่นพี่ขี่ประกบก่อนชักมีดขู่ เพื่อให้อีกฝ่ายเปิดดูหัวเข็มขัด ว่าเรียนที่ไหน จังหวะนั้่นอีกฝ่ายหันมามองมีดตน ทำให้เสียหลักล้มคว่ำตรงเกาะกลางถนน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าเป็นการใช้มีดข่มขู่เท่านั้นไม่ได้ ไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวผู้บาดเจ็บแต่ออย่างใด

ขณะเดียวกัน นายต่อและนายโอ๊ต ต่างให้การสอดคล้องกันว่า วันเกิดเหตุ ได้มาจึงยืมจยย.ของ นายเอ ไปเอายาให้ นายโอ๊ต ที่รพ.เพื่อบำบัดหลังจากเสพติดน้ำกระท่อม จังหวะนั้น นายเอ พบวัยรุ่นคู่กรณี ขี่จยย.มามองหน้าจึงบอกว่า เด็กช่างมันด่า ให้ขี่จยย.ประกบ พอเข้าไปใกล้ ๆ ปรากฏว่า นายเอ ชักมีดออกมาฟันอีกฝ่าย แต่จังหวะคู่กรณีหันมามองแล้วเสียหลักล้มไปเอง ทำให้เกิดการบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนพวกตนขับขี่หนีไปเพราะไม่รู้ไม่คู่กรณีเจ็บหนัก

เบื้องต้นตำรวจเชิญตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย พร้อมผู้ปกครองมาทั้งหมด มาทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว จากนั้นจะนัดมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.