คุณพ่อคุณแม่ลูกสี่ “บีม กวี และ ออย อฏิพรณ์” ควงคู่กันมาเปิดใจเล่าถึงครอบครัวที่ชีวิตพลิกเมื่อมีลูกมาเติมเต็ม ทำเอาแฟนๆ ที่ติดตามต่างหลงใหลในความน่ารักของเด็กชายเด็กหญิงทั้ง 4 คน พี่ธีร์-น้องพีร์ และ อัยวา-อัญญา ที่โด่งดังในโซเชียลอย่างมาก จนเกิดมีดราม่าเป็นพี่เลี้ยงออนไลน์ พร้อมเผยถึงแพลนการมีลูกคนที่ 5 ว่าจะมีอีกหรือไม่ ในรายการ WOODY FM แบบจัดเต็ม

บีม เผยว่า “ตั้งแต่มีลูก พูดถึงมาตรฐานชีวิตแล้วกันครับ แต่ก่อนพวกเราก็มีกัน 2 คน ใช้ชีวิตไม่ได้หวือหวาอะไร พูดตรงๆ คนภายนอกก็อาจจะไม่ได้มองครอบครัวเราว่าเป็นครอบครัวที่พิเศษ แต่พอหลังจากมีเขาขึ้นมา เราก็รู้สึกได้ว่าคนก็มองครอบครัวเราเป็นเหมือนตัวอย่างขึ้นมานิดหนึ่ง ทำให้พื้นฐานใช้ชีวิตของเราก็คือดีขึ้นแหละ ครอบครัวดีขึ้น มั่นคงมากขึ้น คือเราก็เชื่อเรื่องที่เขาเกิดมาแล้วเขาก็มีอะไรตามมาด้วยอะไรอย่างงี้ เวลาคุยกับลูกอย่างที่ 1 ก็คือพอเวลาเราเจอคนที่เขามาขอถ่ายรูป เราก็จะอธิบายว่าเขารู้จักหนูลูก เขามาด้วยความรู้สึกดี อย่างแรกเราต้องให้ความรู้สึกแบบนี้ก่อน ซึ่งจริงๆ มันก็คือความรู้สึกแบบนั้นแหละ อย่างที่ 2 ก็ต้องอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกเราด้วย เราจะบอกทุกคนที่เข้ามาว่าต้องให้ตัวเขายินยอมก่อน นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”

ออย เผยว่า “ตอนที่ออยจะคลอด น้องสาวออยเขาก็แนะนำว่าให้ออยพูดกับลูกบ่อยๆ นะว่าให้เอาซาลาเปามาเยอะ ๆ คือคนจีนเขาจะถือว่าซาลาเปาเหมือนเงินเหมือนทอง แล้วก่อนวันที่ออยจะคลอด บีมเขาก็มาลูบท้องพูดว่าเอาซาลาเปามาเยอะๆ นะ (หัวเราะ)แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร คืออะไรทำแล้วดีเราก็ทำ เขาก็เอามาให้ แล้วมันก็มีอยู่ทริปหนึ่งตลกมากเลย อยู่ดีๆ น้องพีร์เขาก็พูดขึ้นมาว่าเดี๋ยวน้องพีร์จะให้เงินพ่อพ่อเยอะๆ เลย แล้วพ่อเขาก็ถามว่าให้แค่ไหน เขาก็ตอบว่าให้แบบใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่าเลย แล้วทุกวันนี้ก็ยังมีแฟนคลับแซวว่าน้องพีร์ก็เอาเงินมาให้พ่อพ่อใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่า เรื่องโซเชียล ตอนแรกออยก็ยอมรับว่าเราไม่ได้คิดถึงตรงนี้ขนาดนั้น เพราะออยก็โตมากับการที่แบบว่า เราก็เป็นคนโบราณนิดหนึ่งค่ะ การถ่ายรูปหรืออะไรสมัยก่อนแก้ผ้าถ่ายรูปอะไรแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องระวังอะไรซึ่งตอนนั้นมันเป็นฟิล์มแต่พอเป็นกล้องดิจิทัลแล้วมันเป็นการโพสต์รูป เราก็ต้องคุยกันว่าไม่ให้ลูกโป๊นะอย่างแรก ก็จะดูให้ออกมาน่ารัก เพราะเราก็จะเก็บไว้ให้เขาดู แล้วเราก็จะได้ดูเองด้วย อยากให้มีความทรงจำดีๆ ให้เขาเก็บไว้ดู แต่พอนานเข้าเริ่มมีคนสนใจเยอะ อย่างตอนที่เขาจะเข้าโรงเรียนเราก็คุยกันว่าเราจะไม่เปิดเผยชื่อโรงเรียนนะ เพราะมีคนถามเยอะว่าน้องจะเรียนอะไร เราก็กลัวว่าเดี๋ยวจะมีคนตามไปที่โรงเรียน ก็จะคุยกันเป็นสเต็ปๆ ไป”

“แต่ทุกคนก็น่ารักนะคะ เขาจะถามตลอดว่าถ่ายรูปได้ไหม ออยก็จะหันไปถามลูกก่อนว่าให้ถ่ายไหมลูก ถ้าเขายอมให้ถ่ายเขาจะชู 2 นิ้วอะไรแบบนี้เลยนะคะ แต่ถ้าเขาไม่ยอมให้ถ่ายเขาจะพูดว่าไม่ ออยก็จะบอกขอโทษด้วยนะคะ คือเราก็เข้าใจคนที่เขามาขอถ่ายรูปนะคะ ว่าเขาอาจจะรู้สึกผิดหวัง รู้สึกเสียใจนิดหนึ่ง แต่ว่าบางทีออยก็ต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างการรักษาน้ำใจลูกเรา กับการรักษาน้ำใจคนอื่น เรื่องมีพี่เลี้ยงออนไลน์คอยติ เราเห็นตัวอย่างจากบ้านอื่น บ้านดารานะคะ ออยก็เห็นแล้วว่ามันมีแบบนี้ ตอนแรกก็คิดว่าเราคงไม่ได้เป็นที่สนใจขนาดนั้น แต่พอเอาเข้าจริงก็มีเยอะเหมือนกัน แรกๆ ที่เขาคอมเมนต์กลับมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อความว่าเราอุ้มลูกไม่เท่ากัน อุ้มคนนี้เยอะกว่า คนนั้นน้อยกว่า เหมือนรักลูกไม่เท่ากัน พอฟังครั้งแรกเราก็รู้สึกเครียดนะคะ แล้วก็กลับไปย้อนดูว่าเราทำอะไรเขาถึงคิดอย่างนั้น ทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนั้น เพราะว่าเราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น ก็กังวลใจ พอกลับไปย้อนดูแล้วก็คุยกับบีมว่าตรงนี้มันเป็นยังไง คือทบทวนกันแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาเข้าใจ โอเคเขาอาจจะเห็นภาพวิดีโอตรงนั้น ด้วยลูกที่นิสัยไม่เหมือนกัน แล้วสถานการณ์ตรงนั้นเราก็ควบคุมได้เท่าที่เราสามารถทำได้ พอหลังจากนั้นมีข้อความลักษณะแบบนี้มาอีก เราก็ไม่เครียดละ เราก็พยายามอธิบายเขา”

ออย เล่าต่อว่า “เราดีใจที่ครอบครัวของเราเป็นส่วนหนึ่งของรอยยิ้มให้เขาในแต่ละวัน เพราะว่าคอมเมนต์ที่ไปอ่าน ส่วนใหญ่จะบอกว่าขอบคุณที่ทำให้วันแย่ๆ ของเขาทำให้เขายิ้ม หรือบางคนส่งข้อความมาหาออยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งไม่ใช่คนเดียวนะคะเยอะมากว่าลูกเราทำให้ฮีลใจเขา ออยรู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นกุศลให้ลูกเรา ทำให้คนอื่นที่แม้เราจะไม่รู้จักเขาแต่ก็ทำให้ชีวิตเขามีความสุข มันเป็นเรื่องที่เซอร์ไพร้ส์บ้านเราเหมือนกัน ตอนที่มีลูกชายโอเคเรารู้แล้วว่าคนรักเขาเยอะ ลูกสาวก็คิดว่าใครจะมีคนรักทั้ง 4 คนทั้งบ้านขนาดนั้น แต่ก็กลายเป็นมีแต่คนถามหา อัยวา อัญญา เพราะว่านางจ้ำม่ำแก้มใหญ่ ผู้ใหญ่เขาคงจะอยากฟัด เอ็นดูเขา แล้วบุคลิกเขาคือเด็กตลก เขาฉลาดมาก เขาฟังคำสั่งได้ เขาจำชื่อคนในบ้านได้หมดทุกคนเลย ตอนนี้ออยเหลือไข่อีก 1 ฟองเป็นผู้หญิง คือถ้าคุยกันตอนนี้คิดว่าคงไม่ แต่ว่าก็ไม่รู้ แต่ก็ยังเก็บไว้อยู่ค่ะ เพราะว่าแก่แล้วค่ะพี่วู้ดดี้ สมมุติว่าถ้าจะมีลูกอีกที ออยก็คงต้องรอให้คู่ที่สองเขาโตระดับหนึ่งก่อน เพราะว่าไม่อย่างนั้นเราจะแบ่งร่างในการดูแลเขาไม่ได้ ซึ่งถึงตอนนั้นออยก็คงจะ 50 แล้วก็คงไม่ไหว ก็ไม่รู้ด้วยว่าท้องอีกคนหนึ่งจะไหวไหม ไม่รู้ว่าข้างในเราพร้อมที่จะตั้งครรภ์อีกรอบไหวไหม ถ้าสมมุติว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ ก็อาจจะต้องให้คุณหมอพิจารณา”

บีม เล่าต่อว่า “ผมรู้สึกว่าการมีลูกคนหนึ่ง ภรรยาผมใช้ร่างกายเปลือง เหมือนต้องใช้พลังงาน เหมือนดึงอะไรบางอย่างมาจากตัวเขา ก็คิดว่าดึงออกมาตั้ง 4 คนแล้วนะ (หัวเราะ) อีกคนก็คิดว่าไม่ดีกว่า”