นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของไทย รายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 51” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 ธ.ค. 66 ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ สนามระดับแชมเปี้ยนชิพคอร์ส จังหวัดปทุมธานี

นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ กล่าวว่า การแข่งขันกอล์ฟ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการสำคัญของไทยและจัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ในแต่ละประเทศ แมตช์โอเพ่น ถือเป็นเมกะแมตช์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการกอล์ฟของตน แต่ละประเทศเจ้าภาพจะพยายามดึงนักกอล์ฟระดับโลกเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาวงการกอล์ฟในประเทศแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอีกด้วย จึงมีความพยายามสร้างการแข่งขันที่มีมาตรฐานและมีเงินรางวัลสูงเพื่อดึงดูดนักกอล์ฟแถวหน้าของโลก

สำหรับประเทศไทยเองการแข่งขัน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” เป็นการแข่งขันที่มีมาอย่างยาวนาน ชิงถ้วยพระราชทานจากรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของนักกอล์ฟไทยทุกคน ด้วยความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นนี้ จึงทำให้กอล์ฟ ไทยแลนด์ โอเพ่น ได้รับความสนใจจากนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เข้าร่วมแข่งขัน ประกอบกับปัจจุบันมีนักกอล์ฟไทยจำนวนมากที่มีความสามารถแข่งขันในต่างประเทศมากมาย มีสนามกอล์ฟที่สวยงามมากมาย ถ้าได้รับการสนับสนุนให้เป็นแมตช์ที่มีเงินรางวัลเทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้าน น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการสานต่อประโยชน์จากการแข่งขันสู่การพัฒนาวงการกอล์ฟไทยและการท่องเที่ยว

นายเกษมสุข จงมั่นคง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจกอล์ฟ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ เป็นสนามระดับแชมเปี้ยนชิพ คอร์ส อยู่ในสภาพพร้อมเต็มที่ตั้งแต่ทีออฟ แฟร์เวย์ ไปจนถึงกรีน ซึ่งปีนี้ปรับให้เป็นพาร์ 71 เพื่อความท้าทายมากขึ้น เชื่อว่านักกอล์ฟจะได้สัมผัสความสนุก ความท้าทายที่น่าตื่นเต้นของสนามอย่างแน่นอน เลย์เอาต์ของสนามถูกออกแบบมาให้มีลูกเนินเลียนแบบหุบเขาทำให้มีความท้าทายในทุกหลุม และได้ปรับระยะเป็นพาร์ 71 ปรับปรุงเลย์เอาต์บางหลุมให้ท้าทายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ หลุม 6 พาร์ 5 ระยะ 623 หลา ซึ่งยากและไกลที่สุด และมีบังเกอร์ดักระยะซ้าย-ขวา ทำให้แฟร์เวย์แคบลง และหลุม 18 พาร์ 5 ระยะ 560 หลา ถือเป็นอีกหลุมที่ยาก มีอุปสรรคน้ำทางซ้าย และโดดเด่นด้วยบังเกอร์ขนาดใหญ่ด้านขวา และบังเกอร์หน้ากรีน

ขณะที่ “โปรแม็ก” ขวัญชัย แท่นนิล แชมป์เก่า กล่าวว่า รายการนี้เป็นการแข่งขันกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทยอีกหนึ่งรายการ ที่สำคัญคือถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่นักกอล์ฟไทยทุกคนอยากครอบครอง เพราะเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ครองถ้วยรายการนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ครั้งนี้ตนฝึกซ้อมหนักขึ้น พยายามแก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง ในมุมของตนน่าจะเป็นลูกไดรฟ์ที่จะต้องซ้อมให้บ่อยขึ้น เพราะอย่างปีที่แล้วที่ชนะเพราะไดรฟ์ดีเลยให้คะแนนออกมาดี ปีนี้ก็อยากจะคว้าแชมป์อีกครั้ง เพื่อความภูมิใจของตัวเองและครอบครัว

ทั้งนี้ นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่การแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น จะอยู่ในปฏิทินการแข่งขันของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ โดยครั้งนี้มีความพิเศษเพราะจะเป็นรายการสุดท้ายของฤดูกาล 2023 ซึ่งจะตัดสินตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินสูงสุด, นักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยม และนักกอล์ฟที่จะรักษาทัวร์การ์ดสำหรับฤดูกาล 2024

สำหรับนักกอล์ฟที่จะเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้มี 144 คน แข่ง 72 หลุม โดยตัดตัวที่ท็อป 60 และเสมอหลังจบ 36 หลุม โดยในจำนวนนักกอล์ฟที่ยืนยันเข้าร่วมแข่งขันก็รวมถึง 4 แชมป์เก่า ได้แก่ ขวัญชัย แท่นนิล (2565), จอห์น คัทลิน (2562), ภาณุพล พิทยารัฐ (2561) และ รฐนน วรรณศรีจันทร์ (2560) นอกจากนี้ยังมี ฉ่างไท้ สุดโสม ผู้นำในอันดับเงินรางวัลสะสมออลไทยแลนด์ฯ 2023 ที่กำลังลุ้นตำแหน่งนักกอล์ฟมือ 1 ของทัวร์, ธนภัทร พิชัยกุล แชมป์สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว, สุทธินนท์ ปัญโญ, วรุณ เอี่ยมแก้ว, ภัทรพล ขันทะชา, โคสุเก ฮามาโมโต้, ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย, วรัญญู รัตนไพบูลย์กิจ, และ อติรุจ วินัยเจริญชัย