สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ ว่ากองกำลังยังไม่ทราบฝ่ายยิงจรวดโจมตีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงแบกแดด ทั้งที่ตั้งอยู่ในกรีนโซน ซึ่งถือเป็นเขตปลอดภัยและมีมาตรการด้านความมั่นคงระดับสูงสุด


หลังเกิดเหตุยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมารับสมอ้าง ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงรุ่งสางของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น แม้เคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ และโครงสร้างของสถานเอกอัครราชทูตไม่ได้รับความเสียหาย แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของอิรัก เพิ่มความเข้มงวดให้กับการรักษาความปลอดภัยแก่สถานเอกอัครราชทูต บุคลากรการทูต และทรัพย์สินทางการทูตของสหรัฐ


อย่างไรก็ตาม กำลังพลและทรัพย์สินทางการทูตและการทหารของสหรัฐ ในอิรักและซีเรีย ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีมากขึ้น นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา แม้มีการระงับการโจมตีควบคู่กัน เมื่อครั้งมีการพักรบในฉนวนกาซา ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-1 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่เมื่ออิสราเอลและกลุ่มฮามาสกลับมาสู้รบกันอีก การโจมตีกำลังพลของสหรัฐในอิรักและซีเรียกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งเช่นกัน


กระนั้น นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดด เป็นเป้าหมายของการโจมตีทางทหาร ปัจจุบัน สหรัฐยังคงประจำการทหารอยู่ในอิรักราว 2,500 นาย.

เครดิตภาพ : AFP