ศึกกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของไทย รายการ “ไทยแลนด์ โอเพน 2023” ครั้งที่ 51 ชิงถ้วยพระราชทาน ในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ที่สนามกอล์ฟริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ พาร์ 71 จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.66 เป็นการแข่งขันในรอบสุดท้าย

ปรากฏว่า เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ วัย 20 ปี ซึ่งจบรอบ 3 นำห่างคู่แข่ง 5 สโตรก เก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์ จาก 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ สกอร์รวม 22 อันเดอร์ คว้าแชมป์ พร้อมรับถ้วยพระราชทานไปครอง รับเงินรางวัลรวม 750,000 บาท และยังเป็นแชมป์รายการที่ 3 ใน ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ ของเจ้าตัวอีกด้วย หลังก่อนหน้านี้ได้แชมป์รายการ “สิงห์ เชียงใหม่ โอเพน 2021” และ “สิงห์ ออลไทยแลนด์ พรีเมียร์ แชมเปียนชิพ 2022”

นอกจากนี้ยังเป็นการคว้าแชมป์สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันของโปรชาวชลบุรีรายนี้ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วคว้าแชมป์รายการ “อารามโก อินวิเตชันแนล” พร้อมกับจบด้วยการเป็นมือ 1 ของเอเชียนเดเวลล็อปเมนท์ทัวร์ ที่ซาอุดิอาระเบีย

เด่นวิทย์ ที่รับเงินรางวัล 750,000 บาท ทำให้ขยับขึ้นมาจบที่อันดับ 4 ในอันดับเงินรางวัลสะสมที่จำนวน 1,045,537 บาท จากการเล่น 9 รายการ พร้อมกับกล่าวเปิดใจว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตีกอล์ฟดีในช่วงนี้คือมีความสุข เล่นกอล์ฟแบบมีความสุขเพราะเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา เครียดมาก ไม่ค่อยมีความสุขกับการเล่นกอล์ฟ จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการคว้าแชมป์วันนี้น่าจะเป็นหลุมที่ 16

ขณะที่ “โปรเจมส์” เนติพงศ์ ศรีทอง ชิพอินอีเกิ้ล ที่หลุมสุดท้ายก่อนจบอันดับ 2 ที่สกอร์รวม 21 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 475,000 บาท ในแมตช์ปิดฤดูกาลของ ออล ไทย กอล์ฟ ทัวร์ 2023 และจบที่ 5 อันดับเงินรางวัลสะสมที่จำนวน 986,379 บาท จากการเล่น 7 รายการ

ส่วน “โปรไทเกอร์” วิชญภัทร สินสร้าง ทำรอบสุดท้าย 8 อันเดอร์ จาก 9 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ สกอร์รวม 20 อันเดอร์ จบอันดับ 3 ร่วมกับ โคสุเก ฮามาโมโต้ รับเงินรางวัลคนละ 240,625 บาท

อันดับ 5 ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย สกอร์รวม 17 อันเดอร์ หลังจากตีรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์ และรับเงินรางวัล 158, 750 บาท จบฤดูกาลด้วยการเป็นนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของออล ไทยแลนด์ฯ 2023 ด้วยจำนวน 1,088,303 บาท จากการเล่นทั้งหมด 13 รายการ.