สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะผู้บริหารฮ่องกง ระบุว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเขตชุดที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 27.54% หรือคิดเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงราว 1.2 ล้านคน จากราว 4.3 ล้านคนเท่านั้น ที่ออกมาใช้สิทธิ ถือว่า ต่ำที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปี 2542 ซึ่งผู้ออกมาใช้สิทธิในเวลานั้นอยู่ที่ 35.82%


สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัคร 399 คน ลงชิงชัยใน 176 ที่นั่ง ซึ่งมาจากระบบเขตเลือกตั้ง และอีก 88 ที่นั่ง ซึ่งมาจากเขตเลือกตั้งที่แบ่งตามหลักภูมิศาสตร์ อ้างอิงตามจำนวนประชากร ส่วนนี้จะมาจากการลงคะแนนโดยตรงของประชาชน

แผ่นป้ายหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาเขตฮ่องกง


ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงคะแนนครั้งแรก “ตามการปฏิรูปการเลือกตั้งแบบใหม่ เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลของเจ้าหน้าที่รัฐระดับท้องถิ่นในฮ่องกง” โดยผ่านการรับรองของสภานิติบัญญัติ ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนแผ่นดินใหญ่ เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ลดสัดส่วนที่นั่งสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง เหลือเพียง 20% ส่วนที่เหลือมาจากการแต่งตั้งโดยคณะผู้บริหารฮ่องกง และการเลือกตั้งทางอ้อมผ่านคณะบุคคล นอกจากนี้ ยังมีสัดส่วน 27 ที่นั่ง สำหรับอดีตเจ้าหน้าที่


อนึ่ง การที่ผู้สมัครทุกคนต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมาธิการ 3 ชุด ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะผู้บริหารฮ่องกง เท่ากับเป็นการ “ปิดตาย” โอกาสการลงสมัครของนักการเมืองฝ่ายค้าน


นายจอห์น ลี หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง กล่าวว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาเขตครั้งนี้ “คือการดำเนินการขั้นสุดท้าย” เพื่อให้เป็นไปตามหลักการพื้นฐานว่า “ผู้รักชาติเท่านั้นที่จะบริหารฮ่องกง” สื่อถึงการที่จีนปราบปรามการประท้วงต่อต้านครั้งใหญ่ เมื่อปี 2562 ด้วยการบัญญัติกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อบังคับใช้กับฮ่องกงเท่านั้น เมื่อปี 2563


ทั้งนี้ สมาชิกสภาเขตชุดใหม่ เมื่อรวมจากการคัดเลือกทุกแบบ จะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 470 คน เริ่มปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะมีวาระ 7 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567.

เครดิตภาพ : AFP