เรียกได้ว่าก่อนหน้านี้ทำเอาโลกออนไลน์ตื่นตัวกันอย่างมากมายที่จะหาคำตอบสำหรับเรื่องจากกรณีเพจอีกี้ขยี้ข่าว ออกมาเฉลยคำใบ้ลูกทุ่งสาวโลกสองใบ ทำเอาคนโยงไปถึงสองสาวอย่าง “จ๊ะ นงผณี” อย่างมากมาย ก่อนที่สุดท้ายสาวจ๊ะก็ออกมาไลฟ์ย้ำแล้วว่าไม่ใช่ตนเอง งานนี้อีกคนที่แฟนๆ พุ่งเป้าคือ “หญิงลี ศรีจุมพล” ซึ่งคนก็พากันโฟกัสโซเชียลของหญิงลีทันที แต่เธอยังเงียบๆ ไม่ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้เจอหญิงลีในงานอีเวนต์ก็เลยมีโอกาสให้เธอมาอัปเดตเรื่องนี้ โดยหญิงลีเผยว่า “ในส่วนกรณีที่หญิงอยากจะชี้แจง เพราะที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสชี้แจง หญิงก็จะขอเชิญพี่ๆ ทนายที่หญิงได้แต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นมาที่จะเข้ามาพูดคุยด้วยนะคะ เพราะกรณีนี้เป็นกรณีที่หญิงลีถูกคุกคามเรื่องความปลอดภัย หญิงได้ดูข่าวว่านักร้องคนนี้กลั่นแกล้ง พอวันที่แยกย้ายจากกันเขาได้ให้ข่าวว่ากลั่นแกล้งเขาเรื่องการแจ้งความ ซึ่งคืนวันที่ 16 เม.ย. คาบเกี่ยววันที่ 17 เม.ย. เรื่องก็ผ่านมา 7-8 เดือน ก็จะครบปีแล้ว เนื่องจากวันนั้นเกิดความรุนแรงขึ้น คือการที่เราขอแยกย้ายทุกคนออกจากการทำงาน เนื่องจากพฤติกรรมหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาไม่ยอมไป และเขาก็อาละวาดหลายๆ อย่าง
ถามว่าตกใจไหมพอข่าวบอกว่าเป็นเรา คือหญิงรู้ว่าเป็นหญิง แต่วันนั้นจะออกมาพูดโผงผางเลยหญิงก็จะถูกโจมตีหนัก เพราะหญิงยังไม่มีหลักฐาน ในใบแจ้งความหญิงก็ไปตามหาตั้งแต่คืนวันที่ 16 จนกระทั่งคืนวันที่ 17 ก็ไปตามหาคลิปความรุนแรงในโทรศัพท์ ซึ่งวันนั้นเขาได้มีการไลฟ์สด เราก็เลยไปแย่งโทรศัพท์เขามา จริงๆ โทรศัพท์เครื่องนั้นก็เป็นของหญิงลีนี่แหละที่เขาขอไปยืมใช้ เขาบอกเอาซิมเขาใส่นะ เพราะของเขาพัง เราก็ให้ยืมใช้ เพราะเรายังมีอีกเครื่องนึง ซึ่งเราก็ได้เห็นความน่าเสียใจในโทรศัพท์เครื่องนั้นเยอะแยะมากมายไปหมดเลย ซึ่งสิ่งที่เห็นคือการถูกคุกคาม ความรุนแรง และความน่ากังวลใจมากมาย ตลอดมาที่เขาบอกว่านักร้องกลั่นแกล้งเขาใดๆ หญิงไม่เคยติดตามเรื่องเลย พอคืนวันนั้นเราแย่งโทรศัพท์กลับมาได้ เราก็ได้ดูว่าในนั้นมันมีข้อความที่น่าเสียใจ มีเพื่อนผู้หญิงของเขาส่งข้อความมาบอกว่าให้กอบโกยมาให้มากๆ นะ เราก็ช็อกและเสียใจ และเราก็ได้เห็นว่าเขาถ่ายภาพกล้องที่ถ่ายทำโปรดักชั่น เราก็ไปหาและพบว่ากล้องหนูหายไปหลายตัวเลย”
หญิงลี เผยอีกว่า “หนูก็ไปแจ้งความวันที่ 18 เม.ย. แต่อะไรที่เสียไปแล้วหญิงก็ไม่คาดหวังว่าจะได้คืน ไม่ว่าจะเรื่องกล้องหรืออะไรที่เสียหายไปแล้ว เพียงแต่หญิงรู้สึกว่าหญิงต้องการความปลอดภัย เพราะตอนที่หญิงไปต่างประเทศ หญิงเห็นกล้องวงจรปิดมีชายฉกรรจ์ลงมาจากรถปิกอัพหลายคน แล้วก็เลยปรึกษากับที่บ้านว่าเราจะทำยังไงกันดี ในใบบันทึกประจำวันเมื่อคืนวันที่ 16-17 ก็ได้บันทึกเรื่องความปลอดภัยของหญิงเอาไว้พอสมควรแล้ว ส่วนคำว่าโลก 2 ใบ คำนั้นเขาก็อยากพูดอะไรของเขาไปเรื่อยเปื่อย แต่ว่าในมุมของหญิง คือหญิงยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียน แต่หญิงได้คุยกับพี่ไม้อยู่ ซึ่งพี่ไม้แกมีปัญหากับหญิง ทะเลาะเรื่องดื่ม หญิงก็เลยบอกว่าฉันไม่สามารถพัฒนาหรือเปิดตัวได้จริงจังนะ ถ้าหญิงมีโอกาสชอบใคร หญิงก็จะเปิดใจ และหญิงก็มีโอกาสได้ศึกษากับคนนั้นที่คุกคามหญิงทางสื่อ แต่ในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนมันมีแต่ความน่ากังวลใจ จนหญิงรู้สึกไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ต่อให้เราชอบ ถูกใจ หรือรอคอยมานานพันปี หมื่นปีมันก็ไปต่อไม่ได้ หญิงก็เลยต้องบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันเถอะ แต่เขาก็ไม่อยากไป
ถามว่ามีการคบซ้อนไหม ในช่วงเวลานั้นหญิงลีก็ได้ห่างกับพี่ไม้ เพราะว่าเรามีปัญหากัน และถ้าฉันคบกับอีกคนนึงฉันก็ต้องห่าง แต่คือหญิงคุยกับไม้แล้วรู้สึกปลอดภัย นับจากวันนั้นมาหญิงก็มีความมั่นคงในเรื่องของชีวิตและจิตใจ ถึงแม้ว่าจะพบวิกฤติ แต่วันนี้หญิงได้พบความรักที่ปลอดภัย หญิงไม่รู้ว่าวันหน้ากับคุณไม้จะพัฒนาจะเป็นยังไง แต่หลังจากวันที่เกิดเหตุเราได้มีการปรับความเข้าใจและเริ่มต้นใหม่ ถ้าถามว่าที่คนที่มาคุกคามอยากกลั่นแกล้งเรา เพราะเรากลับมาคืนดีกับคุณไม้หรือเปล่า ตรงนั้นก็คงจะมาทำให้เราเสื่อมเสีย เพราะเขาส่งข้อความมาว่าจะฟ้องสื่อ ซึ่งหญิงก็มีความกังวลใจมาตลอด ทั้งความไม่ปลอดภัย แต่เขาก็พยายามติดต่อหญิงมาตลอด แต่หญิงก็หยุดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 16-17 เม.ย.ที่แจ้งความ ทุกครั้งที่เห็นกล้อง หญิงสะเทือนใจ เจ็บใจ เพราะมูลค่าเกือบ 4 แสน มันหลายตัว
หญิงลีกล่าวต่อว่า “สำหรับข่าวที่ออกมาก็ดูไม่ดีอยู่แล้วสำหรับผู้หญิงที่ถูกใส่ร้าย และมันก็เดือดร้อนไปถึงศิลปินหลายๆ ท่านที่ถูกโยงไป ถ้าหญิงจะปฏิเสธมันก็ไม่ใช่ เพราะมันเป็นเรื่องราวของเราที่ถูกคุกคาม แต่ถ้าจะให้ออกมาตั้งแต่วันนั้น หญิงก็ไม่มีหลักฐานที่จะมาพูด แต่ที่หญิงอยากจะขอวอนพี่ๆ สื่อก็คือว่าความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้จากข้อมูลหญิง แต่ตีข่าวฟังความฝ่ายเดียว อันนี้มันเจ็บปวด หญิงขอบคุณพี่ๆ สื่อที่โทรฯหาหญิงและทราบข้อมูลจากหญิง รวมถึงพี่หนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) โทรฯมาถามและให้คำปรึกษาที่เป็นกลาง และพี่บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) ก็บอกว่าถ้ามีหลักฐานที่ถูกคุกคามก็พูดความจริง อย่างน้อยๆ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับภัยคุกคาม คนที่ไม่มีชื่อเสียง หรือคนที่เขามีอะไรน่าเกรงกลัวใดๆ ทำให้รู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ถ้าถามว่าผู้ชาย 2 คนเคยเผชิญหน้ากันมั้ย มีครั้งนึงที่หญิงบอกว่าอยู่บ้านคุณแม่ใจดี แล้วเขาก็ไปหาหญิง แต่ที่มีข่าวถึงขั้นใช้ปืนจ่อหัวกัน อันนั้นหญิงเห็นข่าวแล้วก็รู้สึกว่าทำไมเขาแต่งเรื่องได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น หญิงจะเล่าให้ฟังเรื่องนี้มันสำคัญเนอะ คือวันนั้นคุณไม้ก็ไป เขาจะไปรับหญิง ก็บอกว่าอยู่บ้านแม่ใจดี มีแบบนี้ๆ นะ มีเคสแบบนี้ๆ นะ มันต้องหยุด ต้องจบ ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทีนี้มันมีการแจ้งความ หญิงก็ไม่แน่ใจว่าอะไร ซึ่งตำรวจอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อพอดี เดินมา 200 เมตร ทีนี้กระเป๋า (คาดอก) ของคุณไม้ หญิงเข้าใจว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์หรือแบตเตอรี่สำรอง หญิงไม่คิดว่าจะเป็นปืน ซึ่งก็ทำให้เขาถูกจับดำเนินคดีในส่วนของพกพาอาวุธ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม แต่ไม่มีการจี้หัวใดๆ เลย”..
