ลิเวอร์พูล ผิดหวังอย่างแรง หลังทำได้แค่เปิดรังเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ 0-0 ชวดโอกาสแซง อาร์เซนอล กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอย่างน่าเสียดาย

เกมนี้ “หงส์แดง” ครองบอลได้มากกว่า และสร้างสรรค์โอกาสพังประตูได้มากกว่าชัดเจน ทว่าจังหวะสุดท้ายกลับไม่เด็ดขาดพอจะส่งบอลผ่านมือ อองเดร โอนานา เข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ

แน่นอนว่า การเสมอนัดนี้ทำให้ทั้ง 2 ทีมต้องแบ่งกันไปฝ่ายละแต้ม แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล มันดูจะเป็นการเสีย 2 แต้มมากกว่า

ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด การบุกมาควัก 1 แต้มกลับไปจาก แอนฟิลด์ หลังจากที่เพิ่งบุกมาแพ้ยับเยิน 0-7 เมื่อเดือนมี.ค.นับเป็นผลงานที่น่าพอใจ และน่าจะสร้างความมั่นใจให้พวกเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

หงส์แดงกับโอกาสมากมายที่ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้

ลิเวอร์พูล ครองเกมได้ดีกว่า และสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากกว่าชัดเจน โดยเกมนี้พวกเขามีโอกาสสับไกถึง 34 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีแค่ 6 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล กลับไม่นิ่งพอในพื้นที่สุดท้าย โดยมักจะรีบร้อนยิงประตูจากระยะไกล (15 ครั้งจากนอกกรอบเขตโทษ) หรือ ไม่ก็ยิงจากมุมแคบ ซึ่งหวังผลได้น้อยมาก

ด้าน ดาร์วิน นูนเญซ แม้จะขยันทุ่มเท และลงเล่นด้วยแพสชั่นที่เต็มเปี่ยม แต่ก็ยังขาดความเนี้ยบในจังหวะจบสกอร์ก่อนโดนถอดออกจากสนามไปในนาทีที่ 78 ส่วน โม ซาลาห์ ก็มีโอกาสลุ้นส่องประตูน้อยมาก หลังโดน ราฟาแอล วาราน และ ลุค ชอว์ ตามคุมแจตลอดทั้งเกม

แมนฯ ยูไนเต็ด มาดีเกินคาด

แม้จะไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ไฉไลระดับนางงามจักรวาล แต่เมื่อมองจากการที่แฟนบอลส่วนใหญ่ หรือ แม้กระทั่งแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด เองต่างมองว่า ผีแดง น่าจะกลับออกจาก แอนฟิลด์ แบบศพไม่สวยแล้ว ต้องบอกว่า ทีมของ เอริค เทน ฮาก ทำผลงานได้ดีเกินคาดไปพอสมควรทีเดียว

แมนฯ ยูไนเต็ด โดน ลิเวอร์พูล กดจนโงหัวไม่ขึ้นในครึ่งแรก แต่ในช่วง 45 นาทีหลัง เรด เดวิลส์ เริ่มจะจับจังหวะการเล่นของตัวเองได้ และมีโอกาสปล่อยหมัดสวนกลับให้สาวกหงส์แดงได้เสียวสันหลังวาบอยู่เป็นระยะเช่นกัน โดยเฉพาะชอตที่ ค็อบบี ไมนู แทงขวางสนามให้ อเลฮานโดร การ์นาโช ควบตามไปเอาบอลจนเกือบจะได้ยิงแบบเหน่งๆ หากไม่โดน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตามมาจิ้มบอลออกจากเท้าในเสี้ยววินาทีสุดท้ายเสียก่อน

นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังน่าได้ประตูสุด ๆ ในจังหวะที่ อันโตนี ประสานงานกับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก่อนที่ แม็คทอม จะแทงให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้หลุดไปดวลกับ อลิสซง เบ็คเกอร์ แบบตัวต่อตัว ทว่าน่าเสียดายที่ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก กลับยิงไปตรงตัวนายทวารเจ้าถิ่นที่ปรี่ออกมาปิดมุมได้อย่างรวดเร็วเสียอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ควักแต้มกลับออกจาก แอนฟิลด์ ได้ในเกมนี้ ก็คือการเล่นเกมรับได้อย่างรัดกุม และดูเป็นระบบระเบียบมากกว่าที่เคย

งานนี้นอกจากจะต้องยกความดีความชอบให้คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง จอนนี อีแวนส์ และ ราฟาแอล วาราน แล้ว ก็ยังต้องปรบมือให้คู่มิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง โซฟียาน อัมราบัต กับ เจ้าหนูไมนู ที่ช่วยกันแบ่งเบาภาระให้กับแผงแบ๊กโฟร์ได้อย่างน่าชื่นชมอีกด้วย

ใครว่า วาราน เล่นฝั่งซ้ายไม่ได้?

เอริค เทน ฮาก เคยให้เหตุผลสำหรับการตัดสินใจดร็อป ราฟาแอล วาราน เป็นตัวสำรองตลอดช่วงหลายนัดที่ผ่านมาว่า เป็นเพราะ ดาวเตะเลือดน้ำหอม มักจะเล่นได้ไม่ดีในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย

อย่างไรก็ตาม เกมนี้ เทน ฮาก กลับกลืนน้ำลายตัวเอง และส่ง วาราน ลงเล่นทางฝั่งซ้าย และสลับเอา จอนนี อีแวนส์ มายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวขวาแทน แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่ได้รับบาดเจ็บเสียอย่างงั้น

ในเกมที่ แอนฟิลด์ วาราน แสดงให้เห็นถึงคลาสของกองหลังระดับแชมป์โลกอีกครั้ง โดยยืนตำแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกม แถมยังแสดงความเป็นผู้นำด้วยการจัดระเบียบแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด จนสามารถต้านทานเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ที่โหมเข้าใส่ราวพายุบุแคมเอาไว้ได้สำเร็จ.