สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่า กลุ่มเยาวชน ซึ่งมีเด็กอายุระหว่าง 8-17 ปี กล่าวว่า สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (อีพีเอ) จงใจปล่อยให้มลพิษทางสภาพอากาศที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ถูกปล่อยออกมาจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลของก๊าซเรือนกระจกที่หน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสวัสดิภาพของเด็ก

“ฝ่ายโจทก์ระบุเพิ่มเติมว่า อีพีเอ เลือกปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะเด็ก ด้วยการลดมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ของชีวิต และอนาคตของพวกเขา เมื่อหน่วยงานตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้มีมลพิษทางสภาพอากาศหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด” สำนักงานกฎหมายที่ไม่แสวงหาผลกำไร “เอาเออร์ ชิลเดรนส์ ทรัสต์” (Our Children’s Trust) ระบุเสริม

คำฟ้องดังกล่าว ซึ่งถูกยื่นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ร้องขอให้ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐประกาศว่า อีพีเอ ละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ในการได้รับความคุ้มครองที่เท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมายและสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต

ผู้ฟ้องร้องคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “เจเนซิส” กล่าวว่า เธออาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และต้องเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ในช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้เธอสัมผัสกับเถ้าถ่านจากควันไฟป่า และฝุ่นละอองมากขึ้น จนทำให้โรคภูมิแพ้ของเธอแย่ลง รวมถึงเกิดอาการน้ำมูกไหล, ไอ และคัดจมูกบ่อยครั้ง

ด้าน “เอาเออร์ ชิลเดรนส์ ทรัสต์” กล่าวถึงเด็กอีกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “มายา” ว่า เธอประสบปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ และปวดศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งคำฟ้องระบุว่า อาการดังกล่าวเป็นผลมาจากไฟป่าที่ลุกลามเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การดำเนินคดีครั้งล่าสุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เกิดขึ้นหลังศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (อีซีเอชอาร์) เริ่มพิจารณาคำร้องของเยาวชนชาวโปรตุเกส 6 คน ซึ่งกล่าวหา 32 ประเทศว่า ไม่ดำเนินการมากพอที่จะหยุดภาวะโลกร้อน เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP