ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับเรื่องราวของละครฟอร์มยักษ์แห่งปีเรื่อง “พรหมลิขิต” ของช่อง 3 ที่เป็นเสมือนความหวังของคนไทยทั้งประเทศที่รักละครเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกทำเป็นนิยาย

ด้วยกระแสความนิยมอย่างล้นหลามก่อนหน้านี้กับละครม้ามือสุดฮิต “บุพเพสันนิวาส” ที่เคยสร้างกระแสความฮอตมาแล้วอย่างน่าตกใจ ทั้งเรื่องของเรตติ้ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว การหวนระลึกถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึงการกินและแต่งกายต่างๆมาแล้วอย่างถล่มทลายเมื่อพ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งพอมีการประกาศว่าจะทำภาคต่อของละครอย่างเรื่อง “พรหมลิขิต” เลยไม่แปลกใจที่คนไทยทั้งประเทศและทั่วเอเชียจะคาดหวังและรอคอยกับละครภาคต่อนี้อย่างมากมาย

งานนี้ต้องบอกก่อนว่าวันนี้ (18 ธ.ค.)ละครพรหมลิขิตออนแอร์เป็นตอนสุดท้าย ซึ่งหลายคนก็ต่างรอคอยบทสรุปของตัวละครทุกตัวในเรื่องว่าจะทำให้แฟนละครอย่างเราๆฟิน จิ้น จิกหมอนได้แค่ไหน เพราะต้องบอกเลยว่าตั้งแต่เริ่มออนแอร์ตอนแรก หลายคนก็รอคอยดูละครจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์หรือ X ตั้งแต่ตอนแรก และเป็นที่พูดถึงในแง่ของเรตติ้งที่นำโด่งไม่ว่าจะการดูสดหรือดูย้อนหลัง เรียกว่าสมฐานะของนักแสดงและการรอคอยสุดๆเพราะทุกตัวละครที่มีอยู่และตัวละครใหม่ในเรื่องสามารถถ่ายทอดและชวนคนติดตามได้เป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกหากเรตติ้งดีและคนพูดถึงเยอะมากๆ

แต่แล้วความสนุกสนานของละครก็ถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงกลางเรื่องที่ถูกสับเละ เรตติ้งลด เพราะความ “ยืด เยื้อ น่า เบื่อ หน่าย” ตัวละครบางตัวไม่ควรให้ความสำคัญกับบทมาก แต่กลับใส่สุด ใส่เต็มจนหลายคนตกใจ ไหนจะเรื่องอาหารการกิน ที่ดูยังไงๆ ก็ “เยอะ” เกินพอดี จนน่าเบื่อ แต่เพราะความน่ารักของพระนางอย่าง “โป๊ป-ธนวรรธน์” และ “เบลล่า ราณี “ รวมถึงนักแสดงสมทบทำให้ละครเรื่องนี้ ยังคงตั้งอยู่บนความสนุกสนานได้บ้าง

จากนั้นไม่นานเรตติ้งก็พอกระเตื้องอยู่ 2 อีพีก่อนจะรูดม่านจบในวันนี้ (18 ธ.ค.) ซึ่งบอกเลยว่าความ “คาดหวัง” ของแฟนละครเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะอะไรรู้ไหม เพราะคาดหวังว่าละครเรื่องนี้จะ “ล้างอาถรรรพ์” การทำละครภาค 2 ของไทยที่ไม่เคยก้าวข้ามได้เลยสักที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้จะต้อง “โทษ” อะไรกันแน่ ระหว่าง การตัดต่อที่งงไปงงมา หรือการเขียนบทที่ไม่ชวนสนใจแล้วกันแน่ จนหลายคนออกมาติดแฮชแท็ก #พรหมลิขิตตอนจบ ผ่านโลก x กันล้นหลาม ก็ยอมรับตามตรงเนอะ กระแสต่อว่าและวิจารณ์เรื่องความงงของบทและเนื้อหายังคงถูกยกมาพูดถึงแทบทุกกระเบียดนิ้ว แต่ที่ชมและต้องให้เครดิตหนักมากคือนักแสดง เพราะยังคงทำ “ได้ดี” ในมาตรฐานของตนเองอยู่ตลอด

เอาจริงๆจากที่ประมวลคงามสนุกสนานของละครพรหมลิขิตมาจนถึงตอนจบนะ ถ้าตัดเกรดจริงๆแบบไม่เอาใจช่อง ไม่เอาใจนักแสดง ก็พูดตรงๆว่า “7 เต็ม 10” น่าจะเยอะที่สุดแล้ว

ไม่ใช่ละครหรือนักแสดงทำไม่ดีนะ แต่งานนี้ก็ต้องพูดตามตรงแบบที่หลายคนพูดกันในแวดวงการทำงานบันเทิงเลยว่า “เราไม่สามารถสร้างละครที่ดีจากบทละครที่แย่ได้” คำนี้น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะให้วิเคราะห์องค์ประกอบโดยรวมแล้ว ก็พูดแบบชัด ชัด ชัด อีกรอบว่า เรื่องนี้ทำให้เจ้าของและช่องยิ้มได้แค่ “เคมีนักแสดงและความเก่งของนักแสดงจริงๆ”

แต่ถ้าตัดตัวละครบางตัวลง บวกกับการดำเนินที่กระชับ เนื้อหาใหม่ๆที่ไม่เน้นสปอนเซอร์หรือยัดเยียดสาร(เนื้อหา)ให้คนดูมากนัก ก็นับว่าละครจะพอได้แน่นอน แต่มาถึงจุดแล้วก็ได้แค่ทำใจกับทุกคนว่า

พรหมลิขิต ก็ยังคง “ก้าวไม่ข้าม” อาถรรพ์ภาค 2 ละครที่ใครทำก็พังและไม่ปังเช่นเดิม แต่ในแง่เรตติ้งน่าจะได้อยู่เพราะคนสนใจดูสดกันเยอะมาก แม้จะต่อว่าก็รอตามจ้า

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ch3thailand