สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการตั้งพันธมิตรด้านความมั่นคงเฉพาะกิจ 10 ประเทศ เพื่อเผชิญหน้า และรับมือกับการเคลื่อนไหวของกองกำลังฮูตีในเยเมน ที่ยกระดับการยิงขีปนาวุธโจมตีเรือบรรทุกสินค้าซึ่งแล่นผ่านทะเลแดง นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ ในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ สมาชิกทั้ง 10 ประเทศ นำโดยสหรัฐ ร่วมด้วย สหราชอาณาจักร แคนาดา บาห์เรน ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน และเซเชลส์


อนึ่ง กองทัพสหรัฐเพิ่งรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าเรือพิฆาตซึ่งลาดตระเวนอยู่ในเขตน่านน้ำสากลของทะเลแดง สกัดการโจมตีของโดรน 14 ลำ ซึ่งมีทิศทางการยิงออกมาจากเยเมน


ทั้งนี้ กลุ่มฮูตีซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส ประกาศว่าจะ “ป้องกันทุกช่องทาง” เพื่อไม่ให้เรือบรรทุกสินค้า “ไม่ว่าของประเทศใดก็ตาม” เดินทางผ่านอิสราเอล หากไม่มีการส่งอาหารและยาผ่านเข้าสู่ฉนวนกาซา และอ้างการยิงขีปนาวุธโจมตี


ด้านผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ รายใหญ่อันดับต้นของโลกหลายแห่ง นำโดยบริษัท เมอส์ก จากเดนมาร์ก เอ็มเอสซีของสวิตเซอร์แลนด์ และเอเวอร์กรีนของไต้หวัน ระงับการเดินเรือผ่านเส้นทางทะเลแดงเป็นการชั่วคราว เนื่องจากบรรยากาศตึงเครียด


นอกจากนี้ บีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานข้ามชาติรายใหญ่ระดับโลก และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ประกาศระงับการลำเลียงน้ำมันทางเรือผ่านทะเลแดงอย่างไม่มีกำหนด


ส่วนเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รมว.การต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกองกำลังฮูตี ว่าตะวันออกกลาง “เป็นภูมิภาคที่ซับซ้อนมากพออยู่แล้วในแทบทุกเรื่อง” รัฐบาลริยาดไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นซ้ำซ้อนอีก.

เครดิตภาพ : AFP