เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าสอบปากคำนายอนาวิน แก้วเก็บ มือยิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่าไม่มีรอยฟันเฟืองประทับบนร่างกาย โดยนายวิน ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงจริง และมีการจัดอุปกรณ์และยานพาหนะในการหลบหนี ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับทีมชุดสืบสวนนครบาลว่า การทำงานของตำรวจในการจับกุมครั้งนี้เป็นการทำงานแบบมืออาชีพ ไม่ได้มีการกระจายข่าวบ่อยๆ เพราะต้องการจับคนร้ายแบบเป็นกลุ่ม ซึ่งต้องทำงานกับอีกหลายหน่วยเพื่อทลายเครือข่ายนี้ และบอกด้วยว่า นี่คือแผนประทุษกรรมคนร้าย ไม่ใช่แค่จับมือยิงแล้วจบ แต่จะศึกษาแผนประทุษกรรมของคนร้ายต่อ และจะสาวไปยังรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าเครือข่าย ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ แนะนำว่าให้มามอบตัว เพราะคดีความมีอายุหลายปี ถ้าหนีต้องหนีตลอดชีวิต

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการขัดแย้งระหว่างสถาบันที่มีการปลูกฝังแบบโลกเสมือนจริงทำให้รู้สึกถึงความเคียดแค้น และไม่ใช่แค่ 2 สถาบันนี้ แต่อยากให้กลับไปดูคดีเก่าๆ ของสถาบันอื่นด้วย ย้ำว่า “จะทลายรังปลวกทั้งเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม” ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมอาชีวศึกษาต้องเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้และเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรอาชีวะด้วย เช่น ให้ย้ายสถาบันที่อยู่ใกล้ชุมชนออกไปให้ห่างจากแหล่งชุมชนเพื่อลดการปะทะ ส่วนตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและส่งสายตรวจตระเวนดูแลความปลอดภัย ออกตรวจในสถานที่สำคัญเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งเป็นมาตรการการป้องกันในการเกิดเหตุ

ส่วนการก่อเหตุได้มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อนำผลงานไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งนายวินกำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 2 และวันรับน้องคือวันที่ 12 พ.ย. จึงเลือกก่อเหตุก่อนวันรับน้องคือ 11 พ.ย. ส่วนนายเลาะ เป็นรุ่นพี่ของนายวิน ร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้เช่นกัน และในเครือข่ายของผู้ต้องหามีทั้งคนที่ยังศึกษาอยู่ คนที่ไม่ได้เรียนต่อ คนที่เรียนจบแล้ว และคนที่เรียนไม่จบ

สำหรับผู้ต้องหาที่มีการโพสต์รูปปืนข่มขู่ครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ก็จะมีการดำเนินการต่อ ไม่ได้จบแค่นี้ พร้อมทั้งได้ฝากให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ศึกษาคดีเก่าของคู่อริด้วย และต้องทำการสืบสวนต่อ ทั้งยังกำชับไปยังพนักงานสืบสวนให้ดำเนินการอย่างรัดกุมในส่วนของพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยาน รวมถึงหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมฝากบอกถึงนักศึกษาอาชีวะคนอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุและมีคดีความ รุ่นพี่ไม่ได้มาช่วยเสมอไป และคนที่เสียใจที่สุดคือพ่อแม่และครอบครัว ไม่ใช่รุ่นพี่

ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ แม่ของน้องหยอด ได้เดินเข้ามาหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พร้อมหลั่งน้ำตา ยกมือไหว้ และกล่าวขอบคุณจากใจที่สามารถจับกุมมือยิงลูกชายได้

ภายหลังการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ นายวิน ถวายสังฆทานเพื่อทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยนายวิน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกสบายใจที่ได้ทำบุญ พร้อมขอโทษสังคมที่ได้ก่อเหตุสลดในครั้งนี้ และขอโทษไปยังครอบครัวครูเจี๊ยบ และแม่น้องหยอด ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะความแค้นส่วนตัว จากกรณีเด็กต่างสถาบันยิงเพื่อนของตัวเองจนเสียชีวิต เขตบางกอกน้อย พี่มีรูปแขวนหน้าห้องที่เซฟเฮาส์ที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า ไม่มีการปลูกฝังจากรุ่นพี่ ไม่มีรุ่นพี่สั่งให้ทำ ไม่มีการเข้ารับน้อง และไม่ได้มีการเตรียมการหาเป้าหมายก่อนก่อเหตุ ส่วนนายทิว ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว