จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมนายเวน (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ถือธนูเดินรอบสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่พบเห็น และเกรงว่าจะได้รับอันตราย ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ชาวบ้านที่พบเห็นนายเวน ถือธนูเข้ามาเดินรอบหนองประจักษ์ เล่าว่า จุดดังกล่าวมักจะมีประชาชนมาออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก โดยนายเวน เดินผ่านบริเวณหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ไปทางถนนเทศา ผ่านจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เดินเรื่อยไปจนถึงศาลเทพารักษ์ ถนนศุภกิจรรยา ก่อนที่ตำรวจจะได้เข้าควบคุมตัว

ด้าน น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี หมอนวดแผนไทย เล่าว่า ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะมีประชาชนมาออกกำลังกายจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดทั้งวัน และมีเด็กนักเรียนมาทำกิจกรรม นอกจากนี้ ยังมีญาติผู้ป่วยที่หน้าโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มานั่งพักผ่อน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ รปภ. และตำรวจมากวดขันดูแลถี่ขึ้น

ขณะที่ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง ตำรวจสายตรวจก็ได้เข้าควบคุมตัวชายที่ถือธนูเดินรอบหนองประจักษ์อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “พาอาวุธธนูคอมพาวด์ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร” พนักงานสอบสวนปรับ 100 บาท และแจ้งผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น ซึ่งผู้ปกครอง เล่าว่า ลูกมีอาการทางจิตประสาท ต้องพบจิตแพทย์ประจำ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องกินยา และรับปากว่าจะดูแลลูกให้เข้มงวดกว่านี้ จึงให้ผู้ปกครองนำลูกกลับบ้าน ฝากถึงประชาชน ถ้าหากพบคนพกอาวุธในที่สาธารณะ ให้รีบแจ้ง 191 ตำรวจจะรีบเข้าควบคุมตัวทันทีเพื่อป้องกันเหตุร้าย

สั่งเพิ่ม ‘ครูเวร-รปภ.’ เข้มเปิดปิดประตูรั้ว หลังหนุ่มพกคันธนูบุกเข้ามาในโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา นายเวน ได้เคยถือคันธนูบุกเข้าไปในโรงเรียนอุดรพิทยานุกูลมาแล้ว ขณะที่มีนักเรียนซ้อมกีฬาสี เมื่อครูเข้าไปสอบถามนายเวน ได้ง้างธนูใส่ จนต้องแจ้งตำรวจให้มาควบคุมตัวออกไปจากโรงเรียน และรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก.