เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา แจ้งว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 23 ธ.ค.66 ได้รับแจ้งเหตุจากวิทยุกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ว่ามีเรือประสบเหตุ ชื่อ ซีบรีซ เป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ บรรทุกคนโดยสาร กว้าง 7.32 เมตร ยาว 14.61 เมตร ลึก 2.30 เมตร ขนาด 30.07 ตันกรอส บริษัท ซี บรีซ ทราเวิล จำกัด เป็นเจ้าของ ใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุวันที่ 21 พ.ค.63 มีนายสมโภช ป้อมทอง เป็นผู้ควบคุมเรือ ได้รับประกาศนียบัตรนายเรือกลเดินทะเลชั้น 1 ประกาศนียบัตรยังไม่สิ้นอายุ จากการสอบถาม ทราบว่า ขณะเรือเดินเข้าใกล้ฝั่งประสบเหตุคลื่นสูงทำให้เรือแตกและพลิกคว่ำในทะเล ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) สั่งการให้  นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา และเจ้าหน้าที่ เร่งตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลเรือประสบเหตุ พร้อมดำเนินคดีทุกข้อหา ตามที่กฎหมายกําหนดอย่างสูงสุด

นอกจากนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ได้ประสานแจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เพื่อทำการติดตามจับกุมผู้ควบคุมเรือ ซึ่งปัจจุบันตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา สามารถจับกุมนายสมโภช ป้อมทอง ผู้ควบคุมเรือได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เชิญเจ้าของเรือเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าท่า พร้อมทั้งจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ควบคุมเรือ ในฐานความผิด ดังนี้

1.มาตรา 297 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2535 ฐานความผิด ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยมีการฝ่าฝืนประกาศเกี่ยวกับการเดินเรือในสภาวะคลื่นลมในทะเลรุนแรง ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยาได้มีประกาศแจ้งให้ทราบแล้ว

2.มาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2535 ฐานความผิด ใช้เรือที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว หรือใช้เรือผิดไปจากเขตหรือตำบลการเดินเรือที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้เรือ และ 3.ดำเนินการสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรของผู้ควบคุมเรือรายดังกล่าว ตามมาตรา 291  แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2477

ส่วนการกู้ซากเรือที่จมอยู่ในทะเล สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยาได้ประสานงานกับชมรมเรือท่องเที่ยวจอมเทียนใช้เรือลากจูงซากเรือที่จมในทะเลขึ้นฝั่งพ้นจากทะเล เพื่อพิสูจน์และทราบชื่อเรือได้เป็นที่เรียบร้อย หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา ได้รับแจ้งเหตุเรือ Driving ชื่อเรือ “สวรรค์ทัวร์” ประสบอุบัติเหตุจมลงในทะเล บริเวณห่างจากหมู่เกาะสุรินทร์ 4 ไมล์ โดยมีผู้โดยสารประกอบด้วยคนประจำเรือและนักท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้น 18 คน เบื้องต้น มีเรือประมงชื่อ “พรสุปราณี 9” ทำการช่วยเหลือไว้ได้ 16 คน และยังคงสูญหาย 2 คน เป็นลูกเรือชาวไทย 1 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1 คน

จากการตรวจสอบพบว่า เรือลำดังกล่าว เดินทางออกจากท่าเทียบเรือทับละมุหลังจากนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 เวลา 15.00 น. และมาประสบอุบัติในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากคลื่นลมแรง ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา ได้ดำเนินงานประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยค้นหาผู้สูญหายอย่างเร่งด่วน พร้อมออกหนังสือห้ามใช้เรือและคำสั่งให้กู้เรือสวรรค์ทัวร์และได้เร่งประสานให้เจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรือ มาสอบสวนข้อเท็จจริงและบันทึกถ้อยคำ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป