จากกรณีเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ จ.ยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน-สวนนาไร่ของชาวบ้าน จำนวนมาก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ชาวบ้านต้องอพยพหนี ไม่สามารถนำสิ่งของภายในบ้านออกมาได้ ทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด บางครอบครัวต้องมาอาศัยใต้เต้นริมถนนสายท่าสาป-บ้านเนียง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และ ริมถนนสายรามัน-ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา

ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.บาลอ และหมู่ที่ 6 ต.กายูบอเกาะ และหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.อาซ่อง-ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา อยู่บนบ้าน เพื่อรอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ขณะนี้ชาวบ้านต้องการข้าวกล่อง น้ำดื่ม อาหาร ฯลฯ เพื่อบรรเทาประทังชีวิต ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมวดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษยะลา 12 (รามัน) จำนวนหนึ่ง นำเรือยนต์ฝ่ามวลน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยเหลือคนแก่-เด็ก ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านสุเป๊ะบือแนบือแต ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ด้วยความยากลำบาก คาดว่ายังมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ริมแม่น้ำสายบุรี ติดอยู่ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 นายนิอัสมาน อับดุล อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา กล่าวว่า จากสถานการณ์มวลน้ำ ในวันนี้ ลดลงกว่าเดิมประมาณสักศอกหนึ่ง แต่ว่าดูจากสถานการณ์จากปีนี้กับที่ผ่านๆ มา ก็ถือว่าสาหัสเพราะว่าประมาณปี 2519 ก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ ส่วนของตนเองที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ก็คือ รถยนต์ 4 คัน จมน้ำ และมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 3 คัน และก็ยังมีทรัพย์สินที่เป็นส่วนหนึ่ง ข้าวของที่อยู่ในบ้านไม่สามารถที่จะเอาออกได้เลย ก็ถือว่าค่อนข้างจะหนัก เพราะว่ามวลน้ำค่อนข้างมาเร็วมาก จริงๆ แล้วปัจจัยที่เร่งด่วนตอนนี้ ชาวบ้านต้องการปัจจัยยังชีพ เรื่องอาหารและเครื่องดื่ม และก็จะมีชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ต้องการ ยังอยู่ในบ้านที่ไม่สามารถออกมาได้ ที่ต้องการความช่วยเหลือตรงนี้อยู่.