เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร มีพิธีเปิดงานสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระพรหมวชิราธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุฯ ประธานจัดงานสมโภชพระอารามฯ โดยมีพิธีทักษิณานุปทาน เจริญพระพุทธมนต์ การแสดงธรรม การอภิปรายทางวิชาการ การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ออกร้านแสดงสินค้า การแสดงนิทรรศการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมกลางแจ้ง เป็นต้น และยังได้มีการนำสมบัติเก่าแก่ล้ำค่าของวัดมหาธาตุฯ ออกมาแสดงให้ชม คือ “พระแสงราวเทียน” ออกมาแสดงเป็นครั้งแรกด้วย

พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานสมโภชพระอารามฯ กล่าวว่า “พระแสงราวเทียน” เป็นพระแสงดาบคู่กายของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (บุญมา) พระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์แรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นพระอนุชาธิราชในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ที่ทรงกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นมาจนถึงปัจจุบัน พระองค์ทรงศรัทธายิ่งต่อวัดมหาธาตุฯ จึงให้การอุปถัมภ์ดูแลวัดตลอดชีวิตของพระองค์ ดังนั้น เมื่อคราวพระองค์ทรงอาพาธหนักก่อนเสด็จสวรรคต พระองค์จึงได้ถวายพระแสงดาบ ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายประจำพระองค์ในการออกรบทุกครั้ง รวมทั้งการเป็นแม่ทัพใหญ่ออกรบชนะในสงครามเก้าทัพ ที่สมรภูมิทุ่งลาดหญ้าด้วย พระแสงดาบนี้ พระองค์ได้ถวายประจำไว้เพื่อเป็นเชิงเทียนจุดบูชาหลวงพ่อพระศรีสรรเพ็ชร พระประธานในพระอุโบสถ และเท่าที่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ปรากฏมีเพียงเล่มเดียวนี้เท่านั้น จึงเรียกว่า “พระแสงราวเทียน” โดยได้จัดแสดงให้เข้าชมในพระอุโบสถตลอดงานสมโภชพระอารามฯ

“ก่อนหน้านี้ “พระแสงราวเทียน” ได้สูญหายไปจากวัด ต่อมา อ.ปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญศาสตราวุธ ซึ่งเคยบวชที่วัดมหาธาตุฯ ประมาณปี 2544 ได้รับทราบข้อมูลและรูปพรรณของพระแสงราวเทียน จากอัลบั้มเก่า และการบอกเล่าของพระพรหมวชิราธิบดี จึงพยายามสืบเสาะ ค้นหาพระแสงสำคัญองค์นี้มาโดยตลอด จนเมื่อไม่นานมานี้ มีผู้รู้แจ้งเบาะแสให้ตามไปพบ พิจารณาจนมั่นใจในลักษณะรูปทรงดาบ เนื้อโลหะ และการประดับตกแต่งติดตั้งราวเทียน จึงนำกลับคืนมาเก็บรักษาไว้ที่วัดมหาธาตุฯ” พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวและว่า สำหรับพิธีสมโภชวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2566 จนถึงวันที่ 2 ม.ค. 2567 จึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมชม เข้าบูชาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย