เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. แถลงกรณีการชุมชุมของกลุ่มทะลุแก๊ส ในวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีการนำยางรถจักรยานยนต์มาเผา ทำลายทรัพย์สินบริเวณใต้ทางด่วนทำให้กีดขวางการจราจรและประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน ต่อมาเวลา 00.30 – 02.40 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 15-20 คัน ตระเวนทุบทำลายและเผาป้อมจราจร อีก 6 จุด ได้แก่ สน.บางซื่อ 3 จุด ที่แยกสะพานควาย, แยกประดิพัทธิ์ และด่วนระนอง สน.ลุมพินี 1 จุด ที่แยกราชประสงค์ และสน.พญาไท 1 จุด คือ แยกอุรุพงษ์ และสน.มักกะสัน 1 จุด ที่แยกมิตรสัมพันธ์ ซึ่งจะได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวผู้กระทาผิดมาดำเนินคดีต่อไป

ซึ่งการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวเป็นความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ (ป.อาญา ม.215) ,เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุม เลิกแล้วไม่เลิก (ม.216), วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น (ม.217) ,ทำให้เสียทรัพย์ (ม.358), ฝ่า ฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม (21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น) และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจปล่อยให้ก่อเหตุตำรวจสามารถดูแลได้หรือไม่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มั่นใจว่าตำรวจเอาอยู่ทั้งมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำผิดแต่ละกลุ่ม ทางตำรวจมีมาตรการตามปกติเพื่อวางมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อสามเหลี่ยมดินแดงก่อเหตุได้น้อยลงจึงเปลี่ยนไปจุดอื่น เมื่อได้รับความร่วมมือจากประชาชนผู้ก่อเหตุไม่สามารถก่อเหตุได้จึงเปลี่ยนไปก่อเหตุที่อื่น จึงต้องมีมาตรการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย