เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 66 สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้จัดงาน “เกียรติยศประดับ” เพื่อเชิดชูเกียรติ เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการและเลขาธิการกิตติมศักดิ์ ในโอกาสที่ได้รับการโหวตจากบุคคลในวงการกีฬาทั่วโลก ยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 คน ที่ได้รับการจารึกชื่อในทำเนียบหอเกียรติยศวอลเลย์บอลนานาชาติ (International Volleyball Hall of Fame) 2023 ในฐานะผู้ประกอบคุณูปการให้กับวงการวอลเลย์บอลโลก มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดย “บิ๊กติ๋ม” เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ ได้เดินทางไปร่วมพิธีเชิดชูเกียรติดังกล่าว ที่โฮลีโยก รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นคนไทยและคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรก ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเช่นนี้

การจัดงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอารีย์ วงศ์อารยะ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ, นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคนในครอบครัววอลเลย์บอล ร่วมงานอย่างอบอุ่น

เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาวอลเลย์บอลไทย นับตั้งแต่ยุคของการเปลี่ยนแปลงที่ได้ร่วมกับ อ.เกรียงไกร (สนอง) นพสงค์ และนายกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม ได้เชิญ นายพิศาล มูลศาสตรสาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้น มาเป็นนายกสมาคมฯ ในปี 2528 และต่อเนื่องมาถึงยุค นายอารีย์ วงศ์อารยะ, นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์, นายพงษ์พโยม วาศภูติ และนายสมพร ใช้บางยาง เป็นนายกสมาคมฯ ในปัจจุบัน เป็นผู้วางแผนการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่เป็นกีฬาที่แทบจะไม่มีคนเล่น ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ในระดับอาเซียน จนปัจจุบันกีฬาวอลเลย์บอล เป็นกีฬามหาชน มีคนเล่นกันทั่วประเทศ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

ในด้านการแข่งขัน จากทีมที่ต้องขอแต้มจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี กลับเป็นทีมที่สามารถเอาชนะได้ทุกทีม โดยเฉพาะทีมหญิง ก้าวผ่านระดับอาเซียน, เอเชีย ขึ้นไปสู่ระดับโลก นอกจากนี้ ยังทำให้นานาชาติยอมรับประเทศไทย ว่าเป็นเมืองกีฬาวอลเลย์บอลระดับต้น ๆ ของโลก สามารถจัดการแข่งขันรายการระดับนานาชาติได้เป็นประจำ ทั้งในร่มและชายหาด และจัดได้ตามมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาบุคลากรด้านต่าง ๆ เข้าไปทำงานในสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC) และสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ด้วยศักยภาพของ เรืออากาศโท ชาญฤทธ์ ยังเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจให้ประเทศไทย เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนากีฬาวอลเลย์บอลนาชาติ และย้ายสำนักงานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย จากจีนมาตั้งในไทยอีกด้วย.