เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน  3.48 ล้านล้านบาท  วาระแรก  ซึ่งสส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ต่างอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง  ขณะที่บรรดารัฐมนตรีต่างลุกขั้นทยอยชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิง อาทิ นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม  นายกฤษดา  จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เป็นต้น

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  ได้ชี้แจงในประเด็นการแก้ปัญหาความยากจนว่า เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสร้างรายได้ ทั้งด้านเกษตรกรรม ประมง ปศุสัตว์ โดยมีสโลแกนว่า ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ตนจึงอยากชี้ให้เห็นว่า สโลแกนนายกฯ เป็นจริง และสามารถทำได้ ซึ่งกองทุนหมู่บ้านฯ และ ศอ.บต. ได้พัฒนาโครงการและปรับเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของนายกฯ ทำให้ ศอ.บต.จัดทำงบประมาณ ปี 2567 นอกจากเน้นความสงบสุขในจังหวัดชายแดนใต้แล้ว ยังมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยงบประมาณ 590 ล้านบาท พร้อมมีแผนบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 444 ล้านบาท เพื่อมุ่งเน้นครัวเรือนยากจนให้ลดลง พร้อมทำให้รายได้ของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ด้วยการผลักดันสู่เมืองปศุสัตว์ โดยส่งเสริมเพาะเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ปูไข่ นกกรงหัวจุก วัวพรีเมี่ยม เป็นอาชีพเสริม

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนหมู่บ้านฯ จะใช้งบประมาณสนับสนุนแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร ในโครงการโคแสนล้าน โดยคาดว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในโครงการ จะมีรายได้ภายใน 4 ปี ซึ่งโครงการจะสนับสนุนให้กู้ยืม  ครอบครัวละ 5 หมื่นบาท เพื่อใช้เลี้ยงวัวครอบครัวละ 2 ตัว โดยจะนำร่อง 5 แสนครัวเรือน พร้อมนำนวัตกรรมเสริมมาใช้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีผสมเทียม เพื่อเป็นตัวช่วย ผลิตวัวสายพันธุ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณน้อยมาก เพราะรัฐบาล จะสนับสนุนดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ในปีที่ 4 จะมีโคถึง 10 ตัว จากที่เริ่มต้น 2 ตัว จะทำให้มีรายได้ 250,000 บาท และหากคำนวนทั่วประเทศ จะมีมูลค่าถึง 125,000 ล้านบาท

“ผมขอประกาศในนโยบาย 4 ปี สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ จะหายจน เพราะถ้าเลี้ยง 10 ปี จากที่เริ่มต้นเลี้ยง 2 ตัว จะมีโคถึง 178 ตัว มูลค่ากว่า 4,450,000 บาท โดยจะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาความยากจน ไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเสมอไป ซึ่งขอให้เรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และจริงใจในการแก้ปัญหา รวมถึงเราต้องมั่นใจในแนวทางของรัฐบาลที่ชัดเจน และการแก้ปัญหาความยากจน ก็จะสามารถทำได้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว