เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านใน อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ว่าภายใน ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง มีผู้เฒ่าอายุเกิน 100 ปี มากถึง 3 คน ซึ่งยากที่จะหาพบได้ภายในตำบลและอำเภอเดียวกัน ประกอบด้วยรายแรก นางนวล สุวรรณศรี อายุ 105 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่บ้านโฮ่งหลวง หมู่ 2 ต.บ้านโฮ่ง เกิดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2462 เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก็จะมีอายุเข้าสู่ปีที่ 106 ปี คนที่ 2 ทราบชื่อนายจันทร์ ปัญญา อายุ 106 ปี เกิดวันที่ 9 ม.ค. 2461 อยู่บ้านเลขที่ 9849 หมู่บ้านห้วยกาน หมู่ 1 ต.บ้านโฮ่ง ซึ่งเช่นเดียวกับนางนวล เพราะเหลืออีกเพียง 5 วัน นายจันทร์ จะเป็น 107 ปี และคนที่ 3 คือนางมูล บุญทราย อายุ 115 ปี เกิดวันที่ 1 ต.ค. 2452 อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่บ้านป่าดำ หมู่ 13 ต.บ้านโฮ่ง ทั้งนี้ทั้ง 3 คน ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงดี และเมื่อนับอายุแล้ว ทั้ง 3 คน ต่างมีอายุยืนยาวมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เรื่อยมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน หรือมีชีวิตอยู่มาแล้วถึง 6 แผ่นดิน 6 รัชกาล

ภายหลังรับทราบข้อมูล ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ คนแรกบ้านนางนวล พบนางนวลนั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์ กำลังดื่มอาหารเสริมบำรุงร่ายกาย โดยมีนางละเอียด ทองภักดี อายุ 68 ปี หลานสะใภ้ และนายศุภชัย ทองภักดี อายุ 67 ปี หลาน ช่วยกันดูแลนางนวล เมื่อสังเกตพบด้วยว่า นางนวล เป็นคนมีอารมณ์แจ่มใส สีหน้าสดชื่น ยังแข็งแรงพูดคุยได้เป็นเวลาช่วงสั้นๆ พร้อมกันนี้ นางนวล ยังโชว์บัตรประจำตัวประชาชนให้ผู้สื่อข่าวดูวันเดือนปีเกิดของตัวเองด้วย

นางละเอียด เปิดเผยว่า ทุกวันนี้นางนวล ยังแข็งแรง ตลอดอายุที่อยู่มาถึงวันนี้ เคยป่วยหนักสุดเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ป่วยมีบาดแผลติดเชื้อที่นิ้วเท้า รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนาน 14 วัน สาเหตุที่นางนวลยังสดใส สุขภาพยังดี น่าจะเป็นเพราะนางนวล กินอาหารเสริม กินขนมทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะสุขภาพดีมาก แต่สมองความจำไม่ค่อยดีแล้ว มีความจำสั้น เช่นบอกจะไปล้างจานในครัว นางนวล ก็รับรู้ แต่ผ่านไปเพียง 5 นาที นางนวลก็เรียกหาตนแล้ว ลืมไปว่าตนไปล้างจาน ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน

“นางนวลพูดเก่ง ชอบเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ถ้าให้ถือไมค์จะคุยไม่หยุดเลย แถมยังชอบทำบุญด้วยถึงจะไปวัดไม่ได้แล้ว แต่ก็ชอบใส่ซองฝากไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ” นางละเอียด กล่าวและเปิดเผยอีกว่า นางนวล ไม่มีลูก มีแต่หลานและหลานสะใภ้ สามีเสียไปตั้งแต่อายุได้ 71 ปี ระหว่างการเปิดเผย นางละเอียดได้ถามนางนวล ด้วยว่า “ตอนนี้มีความสุขไหมค่ะ” ได้รับคำตอบกลับมาจากนางนวลว่า “มี มี สบาย มีทุกอย่าง”

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านนายจันทร์ พบลูกหลานของนายจันทร์ กำลังช่วยกันพยุงร่างนายจันทร์ ออกจากบ้านมานั่งหน้าบ้าน จากการสังเกตพบว่า ไม่เพียงนายจันทร์ จะยังแข็งแรง ตอบคำถามลูกหลานได้ พูดคุยรู้เรื่อง และยังมีลักษณะพิเศษ คือมีใบหูขนาดใหญ่มาก ซึ่งลูกๆ ของนายจันทร์ก็บอกว่า “หูพ่อใหญ่มาก เรียกว่าหูพระเจ้า” และเสริมด้วยว่า คนโบราณเชื่อว่า ใครมีใบหูใหญ่ คนนั้นมีอายุยืนยาว จากนั้นยังให้นายจันทร์ โชว์บัตรประจำตัวประชาชนให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันความยืนยาวของอายุด้วย พร้อมกันนี้ลูกๆ ของนายจันทร์ ยังได้ขอพรปีใหม่จากนายจันทร์ โดยได้ให้พรเป็นบทสวดมนต์ เหมือนคำสวดขณะพระสงฆ์ให้พรแก่ญาติโยมก่อนฉันอาหาร

นายพล ปัญญา อายุ 68 ปี บุตรนายจันทร์ เปิดเผยว่า แม่หรือภรรยานายจันทร์ เสียชีวิตไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยโรคชรา พ่อและแม่มีลูกทั้งหมด 9 คน เสียชีวิต 3 คน เหลือ 6 คน คนโตสุดอายุ 72 ปี คนเล็กสุดอายุ 57 ปี ครอบครัวตนเป็นครอบครัวค่อนข้างใหญ่ นายจันทร์ มีหลาน 3 คน เหลนอีก 2 คน สิ่งที่ทำให้นายจันทร์ อายุยืน น่าจะเป็นเพราะไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อารมณ์ดี ชอบกินอาหารพื้นบ้าน ไม่กินยาเสริมสุขภาพ หรือยาบำรุงร่างกาย เป็นคนอายุยืนโดยธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งยาใดๆ

“ชีวิตประจำวันของพ่อ ก็กิน นอน ดูทีวี ดูข่าว ดูรายการกีฬา และก็ชอบทำบุญด้วย” นายพลกล่าวและเสริมอีกว่า “ที่ผ่านมาพ่อป่วยหนักสุดก็คือไปผ่าท้องเอาก้อนอะไรสักอย่างออกจากท้อง จำไม่ได้แล้วเป็นก้อนอะไรและก็นานมากแล้ว จนจำไม่ได้ ผ่าตอนพ่ออายุเท่าไหร่ ในช่วงที่ยังเดินได้คล่อง พ่อชอบไปเดินป่า หาผักหาของกินไปเรื่อยๆ” ทั้งนี้ ระหว่างการเปิดเผย นายพล ได้ถามนายจันทร์ที่ใกล้ๆ หูว่า “ทุกวันนี้มีความสุขหว่า” ได้คำตอบจากนายจันทร์ กลับมาว่า “มีไปไหนไม่ได้” นายพลได้ถามต่ออีกว่า “พ่ออยากไปแอ่วที่ไหนครับ” ซึ่งคำตอบคือ “บ่อไปแอ่วไหนแล้ว”

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านป่าดำ พบนางมูล ที่มีอายุ 115 ปี กำลังนอนพักผ่อนหน้าบ้าน มีนางบัวคำ บุญทราย อายุ 67 ปี บุตรสาวกำลังปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด มีนายสายศิลป์ กุณมา อายุ 64 ปี ลูกนางมูล กำลังนั่งทำความสะอาดหัวหอมภายในบริเวณบ้าน เมื่อให้นางบัวคำ สอบถามสุขภาพของนางมูล ด้วยการถามข้างๆ หู นางมูลยังฟังและได้ยินคำถามที่ว่าสุขภาพยังดี ยังแข็งแรงหรือเปล่า แต่นางมูล ตอบด้วยการพยักหน้าแทน ส่วนดวงตามองไม่ค่อยเห็นตามสภาพอายุที่มากแล้ว พร้อมกันนี้นางบัวคำ ยังได้ให้ผู้สื่อข่าวดูบัตรประจำตัวประชาชนของนางมูล แสดงให้เห็นว่ามีอายุมากอย่างยิ่ง

นางบัวคำ เปิดเผยว่า นางมูล มีลูก 7 คน ยังมีชีวิตเหลืออยู่ 4 คน 3 คนเสียชีวิตไปก่อนนานมากแล้ว คนโตสุดที่ยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันอายุ 76 ปีแล้ว คนเล็กสุดอายุ 64 ปี ส่วนตนเป็นลูกคนที่ 3 อายุ 67 ปี มีหลาน 3 คน และมีเหลน 2 คน เหลนอายุน้อยสุด อายุ 2 ขวบ สำหรับพ่อ เสียไปกว่า 60 ปี หรือตั้งแต่ตอนที่ตนอายุได้ 7 ขวบ และแม่ก็ไม่แต่งงาน ไม่มีครอบครัวใหม่ ทำงานคนเดียว หาเลี้ยงลูกๆ ทุกคนมาจนลูกๆ โต

นางบัวคำ เปิดเผยต่อไปว่า แม่ยังแข็งแรงดี เป็นคนอารมณ์ดี ร่างกายไม่มีโรคอะไร นอกจากเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ปวดเมื่อยเหมือนไม่ค่อยสบายเท่านั้น แม่เป็นคนอายุยืนตามธรรมชาติ ก่อนที่แม่จะอายุมากในช่วงที่ยังทำงานได้ แม่ทำสวนเช่นเดียวกันกับชาวบ้านทั่วไป กระทั่งอายุมากขึ้น จึงหยุดทำงาน และแม่ชอบกินน้ำพริกกับผักลวก กับชอบดูทีวีมาก ดูข่าว ดูรายการต่างๆ ได้หมดตามปกติ