เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบหน้างานจุดเกิดเหตุ โดยได้รับฟังข้อมูลและแผนแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัวจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นายกฤชนนท์ เปิดเผยว่า หลังจากได้ตรวจสอบเหตุในเบื้องต้น พบว่าสาเหตุของเหตุการณ์ถนนยุบตัวครั้งนี้ เกิดจากทางการประปานครหลวงมีการขุดอุโมงค์ส่งน้ำตามโครงการก่อสร้างของการประปานครหลวง ระยะแรกขุดยาวในจุดถนนกาญจนาภิเษกไปยังถนนกัลปพกฤษ์ ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร ความลึกราว 30 เมตร เทียบเท่ากับตึกความสูงกว่า 10 ชั้น ซึ่งระหว่างการขุดมาในตอนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่หลังจากวันหยุดปีใหม่สิ่งที่เกิดขึ้น คือการไปขุดเจอชั้นทราย ทำให้ทรายไหลลงมากองอยู่ในอุโมงค์ ส่งผลให้ถนนยุบตัวลงราว 60 เซนติเมตรเมื่อวานนี้ จึงจำเป็นต้องปิดถนนทางคู่ขนาน ทำให้การจราจรติดขัดตั้งแต่ 4 โมงเย็นของเมื่อวานจนถึงวันนี้

เบื้องต้นจากรายงานไม่มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่หากท่านไหนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีถนนยุบครั้งนี้ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่การประปานคนหลวง พร้อมยินดีรับผิดชอบและเยียวยาชดใช้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

ทั้งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของการประปานครหลวงว่าจะทำอย่างไรในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ได้ข้อมูลว่า หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบชั้นหน้าดินใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการขุดต่อ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาของถนนที่ทรุดตัวลง ก็จะเร่งทำการฟื้นฟูถนนแบบชั่วคราวให้เสร็จภายในภายในวันนี้ ก่อนจะเปิดการจราจรช่วงเวลา 17.00 น. ทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ถนนได้เป็นปกติ พร้อมทั้งจะสำรวจปรับปรุงถนนให้ใช้ได้อย่างถาวร โดยจะวางแผนการซ่อมแซมถนนไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นจะซ่อมแซมในช่วงเวลากลางคืนและจะปิดถนน 4 ชั่วโมงต่อวัน

เมื่อถามย้ำภาพรวมการสำรวจสภาพชั้นดินแล้ว ปัจจุบันจุดเกิดเหตุเป็นอย่างไรนั้น นายกฤชนนท์ กล่าวว่า จากการสำรวจแผนผังตอนนี้ชั้นดินยังเป็นปกติ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากการสำรวจไม่ถี่ถ้วน และไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ จึงได้เน้นย้ำไปแล้วว่าหลังจากนี้ให้สำรวจถี่ถ้วนและแม่นยำมากขึ้น เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน โดยจุดชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุ ตอนแรกพบว่าเป็นดินเหนียว แต่เมื่อขุดเสร็จกลับเป็นดินทราย ทำให้ทรายกับน้ำไหลไปกองอยู่ในอุโมงค์ตามที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งแนวทางแก้ไขก็จะมีเทคนิคในการจัดการอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากการประเมินหน้างานที่ผิดพลาดเอง ทางกระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะทำหนังสือไปถึงการประปานครหลวงด่วยว่า ”จากนี้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจและมั่นใจว่าการขุดเจาะหลังจากนี้ จะไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก“

นายกฤชนนท์ กล่าวอีกว่า ”ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสัญจรในครั้งนี้ พร้อมให้คำมั่นว่าหลังจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์ทรุดตัวขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุหนึ่ง หลังจากนี้จะมีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ และขณะนี้เองเราสามารถซ่อมแซมถนนให้กลับมาได้ในเบื้องต้นแล้ว“

ขณะที่นายนพทัศน์ มาลีรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก การประปานครหลวง ระบุว่า ขั้นตอนของการแก้ไขปัญหาจุดที่พบว่าเป็นดินทราย จริงๆ แล้วเรามีมาตรการในการขุดเจาะอุโมงค์ ไม่ว่าจะพบเป็นดินเหนียวหรือดิน ซึ่งจุดที่เป็นดินทรายหรือเป็นปัญหานั้น เราจะทำการยิงน้ำปูนไปเคลือบ เพื่ออุดโพรงไม่ให้เกิดรอยรั่ว ทำให้ทรายกลับเข้ามาในอุโมงค์ได้อีก ซึ่งก็จะมีผู้ควบคุมงานคอยมอนิเตอร์อยู่ด้านล่าง และจากภาพเครื่องที่มอนิเตอร์อยู่ พบว่าดินตอนนี้สภาพคงที่แล้วและหลังจากนี้จะเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที พร้อมทั้งจะเน้นย้ำในการตรวจสอบทุกวัน เพื่อป้องกันสภาพชั้นดินที่อาจจะแปรปรวน

ต่อมา เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการซ่อมแซมพื้นถนนทรุด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเทยางมะตอย เพื่อปรับพื้นผิวรอยแตก ตรงจุดที่มีการทรุดตัวซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอเซน

โดยนายเกรียงไกร เดชไชยปราการ ผอ.แขวงทางหลวงธนบุรี กล่าวถึงกรณีการเปิดการจราจร ด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการปรับพื้นผิวเทยางมะตอยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องรอจนกว่าจะเซ็ทตัวจึงจะสามารถใช้การได้ โดยยังไม่สามารถระบุเวลาในการเปิดการจราจรได้ แต่ยังมีการให้ใช้ส่วนของช่องคู่ขนานด้านในได้ตามปกติ.