เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวันที่ 8 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พร้อม พ.ต.ต.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายคเชนทร์ สีหามาต หรือ “เชน” อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 89/2567 ลงวันที่ 8 มกราคม 2567 ความผิดฐานลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยจับกุมได้ในห้องเช่าย่านบางกอกน้อย กทม. พร้อมของกลางชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ 1 ชุด


ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายคเชนทร์ สีหามาต ที่เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 89/2567 ลงวันที่ 8 มกราคม 2567 ข้อหาลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ ได้มาหลบหนีมาซุกซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณซอยบางขุนนนท์ 2 จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบจนพบนายคเชนทร์ สีหามาต จึงได้แสดงตัวและหมายจับ โดย นายคเชนทร์ รับว่าเป็นบุคคลหมายจับจริง


จากการสอบสวนนายคเชนทร์ ยอมรับเป็นคนที่ก่อเหตุงัดประตูรถเบนซ์ ที่จอดไว้ข้างถนนท่าเตียน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2566 จริง และได้ทรัพย์สินเป็นแว่นตา ยี่ห้อโครมฮาท สีฟ้า แว่นตากันแดด ยี่ห้อ GIVENCHY และเงินสดประมาณ 9,000 บาท โดยนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายจนหมด เงินที่ได้มาก็เอาไปใช้จ่ายสาวนตัว และยังยอมรับด้วยว่า ก่อนลงมือก่อเหตุแต่ละครั้งจะท่องคาถาพรางตัว เพื่อให้เจอของมีค่าและไม่มีใครเห็นขณะก่อเหตุ


จากการตรวงสอบประวัติพบว่า นายคเชนทร์ เคยถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกในข้อหาลักทรัพย์ มาแล้ว 3 ครั้ง ในท้องที่ สน.ลุมพินี เมื่อปี 2548 และ สภ.บางแก้ว ถูกศาลสั่งจำคุก พ้นโทษเมื่อเดือนกันยายนปี 2563 ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกในพื้นที่ สน.ลุมพินี ต้นปี 64 และพ้นโทษ มาเมื่อ เม.ย. 66 จากนั้นก็ก่อเหตุอีกครั้งในพื้นที่ สน.พระราชวัง ซึ่งแม้ นายคเชนทร์ จะอ้างว่าท่องคาถาพรางตัวแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นกล้องวงจรปิดกับการสืบสวนของตำรวจ จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว.