จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ทำการควบคุมตัวนายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีตีนไก่สวมสิทธิ จากท่าอากาศยานดอนเมือง หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางกลับจากมาเก๊า โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยฯ ได้ควบคุมตัวโดยสารมาด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รุ่นคัมรี พร้อมกับมีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ขับนำขบวนดูแลความปลอดภัย ภายหลังจากที่นายสมเกียรติ กอไพศาล เสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ณ ชั้น 7 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายสมเกียรติ มาส่งมอบให้กับคณะพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 15 ม.ค. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายหยาง ยา ซุง 2.น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา และ 3.นายสมเกียรติ กอไพศาล เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้ง ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558, ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อคดีพอสมควร พร้อมกับแจ้งว่าจะกลับไปรวบรวมพยานเอกสารเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง นอกจากนี้ ในชั้นสอบสวน ประเด็นการปล่อยตัวชั่วคราวนั้น อยู่ระหว่างเสนอไปยัง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ ว่าจะมีความเห็นอย่างไร ส่วนความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันระหว่างนายสมเกียรติและนายหลี่ เซิ่งเจียว ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ส่วนกรณีที่นายสมเกียรติ ระบุกับผู้สื่อข่าวว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งขายตีนไก่ไปยังจีนนั้น ก็อยู่ในขั้นตอนที่เจ้าตัวต้องไปรวบรวมเอกสารมาชี้แจงพนักงานสอบสวน และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกออกหมายจับ

ส่วนกรณีที่นายสมเกียรติ เคยเป็นเลขาส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเรียกนายเฉลิมชัย มาให้ปากคำในฐานะพยานหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ในวันนี้มีเพียงการสอบปากคำ 3 ผู้ต้องหา ในส่วนอื่นจะยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ขอไว้ในขั้นตอนนี้ก่อน ก่อนขออนุญาตสื่อมวลชนเข้าไปในห้องสอบปากคำ เพื่อดำเนินการแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหา และสอบปากคำต่อไป

ต่อมาเวลา 17.05 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ ได้เดินทางมาถึงห้องพนักงานสอบสวน และนั่งเก้าอี้บริเวณหัวโต๊ะการประชุม เพื่อรับฟังรายละเอียดถ้อยคำของทั้ง 3 ผู้ต้องหา ก่อนออกมาเปิดเผยในเวลา 17.20 น. ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหา และจะส่งเป็นหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง ซึ่งเวลาผู้ต้องหามอบตัว พนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อหา และแจ้งพฤติการณ์

ส่วนกรณีของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า และนายกวินทร์ ปิยพรไพบูลย์ หรือ นายมิกซ์ (บุตรชายเฮียเก้า) ทั้งคู่ยังไม่ได้ประสานเข้ามอบตัวกับดีเอสไอ และเรายังไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลา ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องหาว่าจะเข้ามอบตัวช่วงใด นอกจากนี้ ทั้ง 3 ผู้ต้องหายังไม่ขอให้การใดๆ เช่น เกี่ยวข้องกับการขายส่งตีนไก่ไปยังจีนหรือไม่ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเฮียเก้ากับเฮียเกียรติ ก็อยู่ในรายละเอียดการสอบสวน

ส่วนประเด็นการใช้เส้นสายการเมืองของนายสมเกียรติ เอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่หรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เขารับสารภาพเพียงแค่ว่าตัวเองเป็นคนใกล้ชิดเท่านั้น และยังไม่ปรากฏในชั้นนี้ว่าเจ้าตัวใช้เส้นสายทางการเมือง หากใครมีความเกี่ยวข้องเพิ่มเติม หรือดีเอสไอเล็งเห็นว่าจะมีประโยชน์ต่อการพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ เราก็จะเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน แต่ไม่ขอระบุว่าจะเรียกใครบ้าง

ส่วนกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจะแถลงชี้แจง เราก็ขอดูก่อนว่าท่านจะแถลงรายละเอียดอะไรบ้าง ส่วนจะเชิญสอบปากคำหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าการสอบปากคำจะเป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์คดีแค่ไหน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวต่อว่า ตนยังไม่ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนจะต้องเรียกเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ สอบปากคำในฐานะพยานหรือไม่ ตนขอเรียนเป็นหลักการว่าดีเอสไอมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานทุกชนิดเพื่อที่จะพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา หากเรียกใครมาสอบปากคำแล้วมองว่าเป็นประโยชน์ในข้อเท็จจริงใด เราก็จะเรียกมาให้การเพื่อพิสูจน์ว่าความจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และตนไม่ได้มองกรณีการให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส ว่าเป็นการข่มขู่ดีเอสไอ แต่เป็นลักษณะเตือนมากกว่า แต่เราก็ทำตรงไปตรงมา เป็นไปตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว และยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง