เมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีนายทุนขุดปรับพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น ทำถนนคอนกรีตขึ้นไปบนภูเขา และปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได 6 ระดับเทคอนกรีต มองเห็นได้ในระยะไกล เตรียมสร้างที่พักรีสอร์ท จึงประสานการปฏิบัติกับ ผอ.สจป.4 สาขาพิษณุโลก นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น พื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 (พื้นที่ต้นน้ำลำธาร)ท้องที่ หมู่ 6 บ้านดงหลง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไป บ.ดงหลง หมู่ 6 ก่อนถึงหมู่บ้านพบถนนคอนกรีตสร้างใหม่แยกขึ้นไปบนภูเขา จึงขึ้นไปตามเส้นทาง พบพื้นที่ 2 แปลง ดังนี้ แปลงแรกมีการปรับพื้นที่เป็นขั้นบันได 6 ระดับ พบคนงานก่อสร้าง 6 คนกำลังขุดหลุมเตรียมก่อสร้างบ้านพัก เจ้าหน้าที่สอบถาม นายสุวัฒน์ หัวหน้าคนงาน ใ้ห้การว่ารับจ้างจากนายโชคชัย อาชีพวิศวกรอยู่กรุงเทพฯ สร้างบ้านพักรีสอร์ท คิดค่าแรงราคา 350,000 บาท ส่วนรถบ้านที่จอดอยู่ 1 คัน และพื้นที่ที่ปรับระดับไว้เตรียมสร้างที่พัก และทำลานการเต้นท์ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลแคมป์สนแต่อย่างใด

เมื่อตรวจสอบการสำรวจการถือครองตามมติ ครม.30 มิ.ย.41 ระบุชื่อผู้ครอบครองที่เสียชีวิตแล้ว สอบถามบุตรชาย ให้การว่าก่อนบิดาจะเสียชีวิตได้ขายให้ นายบัญชาฯ และทราบว่าขายเปลี่ยนมือหลายคนแล้วการที่นายโชคชัยฯ มายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนฯ จึงถือว่าเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ และเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ได้ตามมติ ครม.26 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่จึงให้นายสุวัฒน์ นำตรวจชี้ขอบเขตที่ดินจับค่าพิกัดตรวจวัดพื้นที่ถูกบุกรุกด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม(จีพีเอส) คำนวณพื้นที่ถูกบุกรุก เนื้อที่ 4 – 0 – 65 ไร่

แปลงที่ 2 ตรวจสอบพื้นที่ติดต่อกันอยู่สูงจากแปลงแรกขึ้นไปบนยอดเขามีการขุดปรับแต่งพื้นที่เป็นขั้นบันได เทคอนกรีตกันดินพังทลาย เตรียมสร้างบ้านพักรีสอร์ท มีการเดินระบบไฟฟ้า และระบบท่อน้ำอย่างดีโดยสร้างอาคารวางแทงค์น้ำ 6 ถัง พักน้ำไว้บนเขาเดินท่อน้ำอย่างดี ติดตั้งเสาไฟโซล่าเซลล์ ตามเส้นทางจำนวน 20 ต้น มีเรือนเพาะชำต้นไม้ดอกไม้ประดับ 1 โรง มีต้นไม้ราคาแพงหลายชนิด และปลูกไม้เมืองหนาว แบลคเบอรี่ เป็นต้น เจ้าหน้าที่ตรวจพบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกใช้ไฟสุมให้ตาย และถูกตัดโค่น 1 ต้น ด้านล่างของพื้นที่มีอาคารขนาดใหญ่ 1 หลัง มี 3 ห้อง ใส่กุญแจ และไม่พบบุคคลใดในที่แปลงที่ดิน

ตรวจสอบการสำรวจการถือครองตามมติ ครม.30 มิ.ย.41 ทับซ้อนของผู้เสียชีวิตที่ครอบครองที่แปลงแรก และแปลงไม่มีชื่อ ตรวจสอบข้อมูลสำรวจ คทช.เมื่อปี 2565 ระบุชื่อนางมนต์ทิพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถอนุญาตได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2(พื้นที่ต้นน้ำลำธาร)ไม่เข้าหลักเกณฑ์ คทช.และไม่ใช่ผู้ครอบครองรายเดิม ถือว่าเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศพบว่าเข้ามาบุกรุกก่อสร้างใหม่เมื่อปลายปี 2564 คณะเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจวัดพื้นที่ถูกบุกรุกด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม(จีพีเอส) คำนวณพื้นที่ป่าถูกบุกรุกได้เนื้อที่ 8 – 2 – 36 ไร่

คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 จึงร่วมกันทำบันทึกตรวจยึดพื้นที่ 2 แปลง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507.