เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้จัดฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม (เข็มแรก) ให้กับประชาชนจำนวน 3,000 คน ณ หอประชุมนครบาลเพชรบูรณ์ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จาก รพ.เพชรบูรณ์, เจ้าหน้าที่ อสม., เยาวชนจิตอาสาจากโรงเรียนเพชรพิทยาคม, พนักงาน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ (ส.ท.) มาฉีดและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยการฉีดวัคซีนครั้งนี้มีการจัดระเบียบอย่างเป็นระบบ แบ่งออกเป็น 5 รอบ รอบละ 600 คน ตั้งแต่ 09.00-15.00 น. บรรยากาศผ่านไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางความยินดีของประชาชนที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเข็มแรก เพราะทุกคนถือว่าได้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ ทั้งนี้เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของ จ.เพชรบูรณ์ เพียงแห่งเดียวที่สามารถจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ในจำนวน 6,000 โด๊ส มาฉีดให้กับประชาชนได้ และจะไปฉีดอีกครั้งเป็นเข็มที่ 2 ในวันที่ 21 ต.ค.นี้

ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม มาฉีดให้กับประชาชนได้นี้ เนื่องจากช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรกนั้น เราได้วางแผนและเตรียมการณ์โดยคาดคะเนไปล่วงหน้าถึงการระบาดของเชื้ออย่างรุนแรง และก็เป็นตามคาดจริงๆ ในขณะนั้นตนและคณะผู้บริหารจึงขออนุมัติงบประมาณจากสภาเทศบาลฯ ในการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 6,000 โด๊ส คิดเป็นเงิน 532,800 บาท และได้รับอนุมัติในการสั่งซื้อจากคณะกรรมการควบคุมโรคของ จ.เพชรบูรณ์ และได้รับการจัดสรรจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จนสามารถนำมาจัดสรรฉีดให้ประชาชนฟรีดังกล่าว

ดร.เสกสรร กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และกลุ่มบุคคลใกล้ชิดที่อยู่นอกเขต ขณะนี้ฉีดไปแล้วราว 70% ของจำนวนประชากรในเขตฯ โดยวัคซีนที่ฉีดไปมีหลากหลายยี่ห้อ และตั้งเป้าจะฉีดให้ได้ 80-85% ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายสูงสุดให้เมืองเพชรบูรณ์ ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายมีความสุข รวมถึงผู้มาท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้อย่างสบายใจ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของจังหวัด หลังจากเราได้รับผลกระทบมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามขอฝากถึงประชาชนแม้ทุกท่านจะได้รับวัคซีนไปแล้ว ก็ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่มีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของ เพื่อเป็นการป้องกันโรคและนำพาเมืองเพชรบูรณ์ ของเราปลอดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างแท้จริง.