ช่วงปลายปีที่แล้ว สัตวแพทย์เจ้าของบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อว่า “ben.the.vet” ได้โพสต์คลิปวิดีโออธิบายเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่ควรนำของเสียของแมวหรือสุนัข รวมทั้งทรายแมวทิ้งลงในโถส้วมแล้วกดชักโครกทิ้ง ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมากจนมียอดเข้าชมมากกว่า 460,000 ครั้งไปแล้ว 

คุณหมอ “เบน” เจ้าของบัญชีติ๊กต็อกซึ่งเป็นสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดรักษาโรคในสัตว์เลี้ยงจากประเทศอังกฤษ เล่าว่าก่อนหน้านี้มีคนส่งคำถามมาหาเขาว่า “ควรจะทิ้ง “อึ” ของหมาหรือแมวลงโถส้วมหรือไม่” และตามข้อมูลที่เขาค้นมาจากเว็บไซต์ของ “แองกิลคัน วอเตอร์” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาทางภาคตะวันออกของอังกฤษ บอกชัดว่า “คุณไม่สามารถทิ้งอุจจาระของสัตว์เลี้ยงทุกประเภทลงในโถส้วมได้” แม้ว่าทรายแมวบางรุ่นจะระบุว่ามีคุณสมบัติย่อยสลายได้ดี สามารถทิ้งลงชักโครกได้เลยก็ตาม

คุณหมอเบนอธิบายว่า เหตุผลของข้อห้ามนี้ก็คือในอุจจาระของสัตว์เลี้ยงจะมีพยาธิตัวกลมในแมวหรือสุนัข (Toxocara) ปนเปื้อนอยู่ด้วย พยาธิเหล่านี้ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสภาพของน้ำเสียก่อนเข้ากระบวนการบำบัด ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิต แต่พวกมันกลับรอดชีวิตได้

สิ่งที่น่าเป็นกังวลก็คือพยาธิเหล่านี้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ จะติดพยาธิได้ง่ายมาก ผ่านการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน และมนุษย์สามารถเป็นร่าง “โฮสต์” หรือที่อยู่อาศัยของพยาธิเหล่านี้ได้เช่นเดียวกับสุนัขและแมว

@ben.the.vet

According to Anglian water, you shouldnt flush your pet’s poo down the toilet! Have you ever done this?? #LearnOnTikTok #toilet #vegetarian #dogsoftiktok

♬ POPOPOPOPO – ????

ถ้าหากเราเผลอรับไข่พยาธิเข้าไปในร่างกายโดยผ่านการสัมผัสอุจจาระของสัตว์เลี้ยง มันจะเข้าไปฝังตัวในลำไส้ของเรา จากนั้นก็จะฟักออกจากไข่ ใช้ชีวิตและไต่ไปตามอวัยวะภายในร่างกายของเรา

คุณหมอเบนยังกล่าวว่า มีหลักฐานการวิจัยที่พิสูจน์ได้ว่าการมีพยาธิอยู่ในร่างกายจะส่งผลกระทบต่อระดับสติปัญญาให้ต่ำลงและพัฒนาการด้านการรู้คิด วิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ด้อยลง พร้อมทั้งแนะนำว่า วิธีป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงก็คือควรถ่ายพยาธิให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำ 

ด้านชาวติ๊กต็อกที่ได้ชมคลิปต่างก็เข้ามาแสดงความเห็น โดยบางรายมองว่าน่าจะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและข้อแนะนำนี้ให้มากกว่าเดิม เพราะคนเลี้ยงสุนัขและแมวส่วนใหญ่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

ต่อมา คุณหมอเบนก็ได้โพสต์คลิปเพิ่มเติมเป็น “ภาค 2” ของหัวข้อว่าด้วยเรื่องการทิ้งอุจจาระสัตว์เลี้ยงลงชักโครก โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ทรายแมวบางชนิดที่บอกว่าสามารถทิ้งลงโถส้วมได้หรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาตินั้น เอาเข้าจริงก็ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะย่อยสลายได้ ซึ่งอาจจะทำให้ท่อระบายน้ำเกิดการอุดตัน 

คุณหมอยังโต้แย้งผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นว่า การทิ้งอุจจาระของสัตว์เลี้ยงลงไปโถชักโครกไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถึงอย่างไร บริษัทจัดการน้ำก็ระบายน้ำเสียออกไปตามท่อในทันทีอยู่แล้ว ซึ่งคุณหมอกลับมองว่านั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรทิ้งของเสียของสัตว์เลี้ยงแสนรักลงโถส้วม เพราะเท่ากับเป็นการส่งพยาธิและเชื้อโรคในของเสียเหล่านี้ไปสู่พื้นที่ระบายน้ำตามธรรมชาติโดยตรง ซึ่งก็เป็นไปได้มากว่า น้ำเสียเหล่านี้มีโอกาสจะย้อนกลับเข้ามาในแหล่งน้ำตามธรรมชาติและนำเชื้อโรคกับพยาธิที่ปนเปื้อนในน้ำมาด้วย

@ben.the.vet

Flushing pet ???? down the loo… continued. The take home point – please check with your water company. If you are in the UK they will probably tell you not to do this… #learnontiktok #pettips #water #dogsoftiktok #catsoftiktok

♬ Aesthetic – Gaspar

นอกจากนี้ ระบบบำบัดน้ำเสียโดยทั่วไป ออกแบบมาเพื่อบำบัดน้ำเสียและน้ำทิ้งที่มีการปนเปื้อนของอุจจาระคนเท่านั้น ไม่ใช่ของสัตว์เลี้ยงที่นอกจากจะมีพยาธิที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายแล้ว ยังมีแบคทีเรียมากกว่าและระดับไนเตรทที่สูงกว่าของเสียของคน เมื่อเชื้อโรคและพยาธิเหล่านี้หลุดรอดจากกระบวนการบำบัดน้ำเสียสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ, ทะเล ก็อาจเข้าสู่ร่างกายของสัตว์น้ำในทะลหรือแม่น้ำ ทำให้สัตว์เหล่านี้ป่วยเป็นจำนวนมาก กลายเป็นการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมได้ในที่สุด

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES