โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบอุดมศึกษาไทย อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทตามการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา  สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ได้สร้างความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว โดยส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละกลุ่มมีการปรับรูปแบบและยกระดับการทำงานในการเป็นแหล่งสร้างต้นทุนทางความรู้ เพื่อนำมาต่อยอดเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ จนมาสู่การสร้างนวัตกรรมในรูปแบบที่หลากหลาย

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. กล่าวว่า โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยได้สนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษา กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น (Area-based) ดำเนินงานตามแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ถือเป็นแนวความคิดบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ การศึกษา การสร้างสรรค์ผลงาน การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา มาเชื่อมโยงกับความหลากหลายวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งในงานหัตถกรรม สถาปัตยกรรม การท่องเที่ยว อาหาร เป็นต้น  และนี่จึงเป็นที่มาของการประกวดผลงานสถาบันอุดมศึกษาพัฒนาเชิงพื้นที่ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สป.อว. และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.) 38 แห่ง สถาบันวิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เป็นต้น ส่งผลงานการเข้าไปพัฒนาในพื้นที่และชุมชนเข้าประกวด โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้ ด้านที่ 1: การปฏิรูประบบบริหารจัดการของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเชิงพื้นที่/ท้องถิ่นรางวัลชมเชย ผลงาน “การปฏิรูประบบบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อการบรรลุวิสัยทัศน์ มหาวิทยาลัยสร้างปัญญาเพื่อนวัตกรรมชุมชนสู่สากล” โดยการทำให้ทุกคณะในมหาวิทยาลัยมีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 68 ตำบลใน จ.พะเยา  เพื่อสร้างความพร้อมให้มหาวิทยาลัยไปสู่การเป็น Frontier Area-Based University ด้วยการได้รับการยอมรับทั้งระดับชุมชนและสากล ในการได้รับการยอมรับระดับชุมชน  

ด้านที่ 2 การพัฒนาบัณฑิตที่มีทักษะสูงตอบโจทย์การพัฒนาพื้นที่หรือท้องถิ่นรางวัลชมเชย ผลงาน “การพัฒนาบัณฑิตเพื่อยกระดับทักษะขั้นสูงด้านโลจิสติกส์ สู่การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก” โดย มรภ.กำแพงเพชร ได้นำเสนอหลักสูตรนำร่องด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนและสร้างความสามารถในการแข่งขันผลิตกำลังคนรองรับ New S-Curve โดยจัดการศึกษาแบบทวิภาคี พร้อมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ จำนวน 4 สาขาอาชีพ เป็นแห่งแรกของภาคเหนือตอนล่าง เพื่อยกระดับมาตรฐานอาชีพด้านโลจิสติกส์ให้กับบัณฑิตและกำลังคนด้านโลจิสติกส์ให้กับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยสอดคล้องกับการผลิตบัณฑิตเพื่อพัฒนาในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ SEZ และ EEC โดยการปฏิรูปการจัดการการเรียนการสอนเชิงบูรณาการกับการทำงาน ให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ

ด้านที่ 3 การนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริการวิชาการ ไปใช้ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น รางวัลดีเด่น ผลงาน : “การบูรณาการเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น (UDRU ANi) มรภ.อุดรธานี” โดยนำเสนอศูนย์นวัตกรรมเพื่อการบริการวิชาการ (INAS) ทั้งนี้  ANi เป็นหน่วยปฏิบัติการเชิงพื้นที่ที่มีเขตให้บริการครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย และบึงกาฬ รวม 43 อำเภอ โดยชูความโดดเด่นของการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและบริการวิชาการไปใช้ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเห็ดครบวงจรสู่ผลิตภัณฑ์ BCG ของพื้นที่ ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ชุมชน “ฮักคำ” การพัฒนาวิถีชาวนา ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG ของพื้นที่ ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ชุมชน “กสิภัฏ” และนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ “อ้อย” เป็นต้น

รางวัลชมเชย ผลงาน : “การยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากโดยอาศัยองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมจากทรัพยากรท้องถิ่น” โดยมรภ.ลำปาง  

รางวัลชมเชย ผลงาน : “การยกระดับขีดความสามารถของชุมชนด้วยระบบและกลไกการจัดการทรัพยากรพื้นถิ่น สิ่งแวดล้อม และสังคมสูงวัยด้วยกระบวนการพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม” โดยมรภ.อุตรดิตถ์   รางวัลชมเชย ผลงาน “การพัฒนาชุมชนเพาะเลี้ยงผึ้งชันโรงสู่การเป็นชุมชนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน จังหวัดสงขลา” โดยมหาวิทยาลัยหาดใหญ่    

“ทั้งหมดนี้ คือผลงานที่มหาวิทยาลัยได้เข้าไปพัฒนาในพื้นที่และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมสู่ประชาชนในส่วนภูมิภาค สะท้อนให้เห็นชัดว่า โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยของ สป.อว. เดินมาถูกทาง เพื่อทำให้มหาวิทยาลัยเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป” ศ.ดร.ศุภชัย กล่าว