การแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ รอบแรก กลุ่ม F นัดสุดท้าย วันที่ 25 ม.ค.67 ทีมชาติไทย พบ ซาอุดีอาระเบีย และ โอมาน พบ คีร์กีซสถาน
ก่อนเตะเกมนี้ ซาอุฯ 6 แต้ม, ไทย 4 แต้ม ทั้ง 2 ทีมนี้เข้ารอบแล้ว, โอมาน 1 แต้ม ต้องชนะ คีร์กีซสถาน จะเข้ารอบทันที
สถานการณ์ของ ช้างศึก ถ้าชนะ ซาอุฯ จะเข้าที่ 1 ไปเจอ เกาหลีใต้(รองแชมป์กลุ่ม E), ถ้าเสมอ หรือแพ้แต่ยังไม่โดนโอมานแซง เข้ารอบอันดับ 2 ไปเจอ อุซเบกิสถาน(แชมป์กลุ่ม B) และหากแพ้ แล้วโดนโอมาน ชนะกับทำประตูได้เสียแซง ทีมไทย เข้าอันดับ 3 ไปพบ อิรัก(แชมป์กลุ่ม D)
เกมของทีมไทย อันดับ 113 ของโลก พบ ซาอุฯ อันดับ 56 ของโลก เตะที่ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม โดย 11 ผู้เล่นของทีมชาติไทย มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือซามูไร เปลี่ยนตัวจริงยกทีมจาก 2 นัดแรก
ผู้รักษาประตู สรานนท์ อนุอินทร์, เซ็นเตอร์ สุพรรณ ทองสงค์, จักพัน ไพรสุวรรณ, แบ๊กซ้าย สันติภาพ จันทร์หง่อม, แบ๊กขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์, กองกลาง สารัช อยู่เย็น, กฤษดา กาแมน, ริมเส้นซ้าย ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ขวา เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ตัวรุก วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, กองหน้า ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ขณะที่ 3 นักเตะที่ไม่มีชื่อ 23 คน คือ สุภโชค สารชาติ, นิโคลัส มิคเกลสัน และอีกรายคือ ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดโทษแบนอยู่แล้ว
ฝั่ง ซาอุดีอาระเบีย ของ โรแบร์โต มันชินี ก็เปลี่ยนเกือบยกทีม ใน 11 ตัวจริง ก็มีชุดเดิมจากนัดที่แล้วแค่ 2 คน เท่านั้น คือ อาลี อัล-โบเลฮี (5) กับ ซาเลม อัล ดอว์ซารี(10) ดาวเตะจากชุดล้มแชมป์โลก อาร์เจนตินา ในฟุตบอลโลก 2022
โดย 3 คน จากชุดตัวจริงนัดที่แล้ว ไม่มีชื่อใน 23 คนเลย คือ เฟราส อัลบริคาน, ซามี ดัลนาจี และ ฮัสซัน อัล ทามบากิต
เกมนี้เปิดมา แลกกันเดือด เล่นมา 10 นาที ไทยเสียจุดโทษ สุพรรณ ทองสงค์ คืนหลังพลาด แม้ สรานนท์ อนุอินทร์ มาตัดได้ แต่ สุพรรณ ตามมาสะกิดแข้งซาอุฯ ล้มลง วีเออาร์ เช็กเป็นจุดโทษ แต่ อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ ยิงติดขา สรานนท์
ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้ง 2 ทีมต่างส่งบอลเข้าประตู เริ่มจาก ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โขกสุดสวยตุงตาข่าย แต่ล้ำหน้านิดเดียว ต่อด้วย ฮาดี ราดิฟ ยิงเข้าไป ล้ำหน้าเช่นกัน ถึงนาทีที่ 35 “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ส่งบอลเข้าก้นตาข่าย และล้ำหน้าอีกครั้ง จบครึ่งแรก 0-0
ครึ่งหลัง ซาอุฯ เดินเครื่องกดดันมากขึ้น ส่วนไทยก็ต้านทานอย่างแข็งแกร่ง นาทีที่ 57 อับดุลราห์มาน การีบ ของซาอุฯหลุดเดี่ยวไปยิงเข้า แต่ล้ำหน้าอีก
ถึงนาทีที่ 65 ไทยเปลี่ยนตัว วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ลงแทน กฤษดา กาแมน เกมของ ซาอุฯ เริ่มข่มไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เกมสวนกลับของช้างศึก ชักไม่แม่น กลายเป็นหลังพิงเชือก แต่นาทีที่ 67 ศุภนันท์ แทงให้ เจริญศักดิ์ สวย มีพื้นที่จี้เข้ากรอบเขตโทษ แต่ เจ้าเท่ห์ ตัดสินใจไม่ดี เปิดล้นไป
นาทีที่ 74 ไทยส่ง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ ศุภชัย ใจเด็ด ลงแทน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กับ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
ท้ายเกม รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก กับ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ลงแทน ปฐมพล กับ เจริญศักดิ์
ซาอุฯ ยังเร่งจะเอาให้ได้ แต่ สรานนท์ ก็ซูเปอร์เซฟ บินรับลูกโหม่งของ ทาลาง ฮาจี สุดสวย
จบเกม ไทย เสมอ ซาอุฯ 0-0 ไทย ไม่แพ้ และไม่เสียประตูทั้ง 3 นัดของเอเชียนคัพ โดยมีอีก 1 ทีมที่ยังไม่เสียประตูเช่นกัน คือ “เจ้าภาพ” กาตาร์
ทั้งนี้ จบรอบแรก ซาอุฯ เข้ารอบอันดับ 1 ในกลุ่ม ไปเจอ เกาหลีใต้ เตะวันที่ 30 ม.ค.67 เวลา 23.00 น.
ส่วนทีมไทย 5 แต้ม จากการชนะ 1 เสมอ 2 ยิง 2 เสีย 0 ได้อันดับ 2 จะพบ อันดับ 2 กลุ่ม B คือ อุซเบกิสถาน เตะวันที่ 30 ม.ค.67 เวลา 18.30 น.
