กรณี น.ส.ปนิฐิ โกศลานันท์ หรือ “เจ๊ม่วย” อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นเครือญาติสกุลดังที่เคยเป็นข่าวปมพิพาทมรดกที่ดิน ถึงขั้นมีการใช้ปืนยิงกันหน้าบัลลังก์ บนศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย เมื่อปี 2562 โดยต่อมาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 พบ น.ส.ปนิฐิ เป็นศพถูกฆาตกรรมในสระน้ำกลางสวนผลไม้ หมู่ที่ 2 ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ภายหลังตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วคือ นายกฤษฏ์ มูลวงศ์ หรือ อ้วน อายุ 40 ปี และ น.ส.โสมสุดา พรหมวิเชียร หรือ “เจ๊ปุ้ย” อายุ 42 ปี โดยตั้งปมเป็นการฆ่าล้างหนี้ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

ด่วน! รวบแล้วสาวจันท์ ร่วมฆ่าแม่เฒ่าสกุลดัง ‘โกศลานันท์’ หลังกบดานปฏิบัติธรรมเขมราฐ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ( 26 ม.ค. 67) ตำรวจคุมตัว น.ส.โสมสุดา พรหมวิเชียร หรือ เจ๊ปุ้ย ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรี โดยมีการพาไปตรวจร่างกายก่อนเพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ถูกทำร้ายให้รับสารภาพ ก่อนที่ญาติจะเข้าเยี่ยม ภายหลังทางญาติเปิดเผยว่า เจ๊ปุ้ยยังคงฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า “เจ๊ม่วย” หรือ “ป้าม่วย” ส่วนเรื่องเงินที่ยืมไปก็ไม่ถึง 30 ล้าน แต่ยอมรับว่ามีการกู้ยืมเงินไปใช้จริงและเป็นเพียงหลักล้าน ส่วนที่มีกระแสข่าวออกไปว่าจำนวนถึง 30 ร้าน น่าจะเป็น การให้ผู้อื่นกู้ยืมด้วย ในส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า เจ๊ปุ้ย กำลังตั้งครรภ์นั้น ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง ขณะนี้ได้ตั้งครรภ์ประมาณ 6 สัปดาห์ โดยของพ่อเด็กคืออาจารย์ใบ้หวยชื่อดังคนหนึ่งที่ อำเภอเขมราษฐ์ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเคยโอนเงินไปให้ใช้จ่ายจำนวนหลักล้าน และเพิ่งซื้อรถยนต์กระบะป้ายแดงให้

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวอ้างว่า ประเด็นการก่อเหตุครั้งนี้ เริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่าง เจ๊ปุ้ย กับ ป้าม่วย ผู้ตาย มีความสนิทสนมชักชวนกันทำธุรกิจปล่อยเงิน และรับฝากจำนองที่ดินทรัพย์สิน ก่อนที่ เจ๊ปุ้ย จะหยิบยืมเงินจาก ป้าม่วย มาประกอบธุรกิจเงินกู้ โดยนำเอาทรัพย์สินจากผู้อื่นหรือ ทรัพย์สินปลอมมา เป็นหลักค้ำประกันเพื่อหลอกเอาเงินจากครั้งละเป็นล้าน รวมเบ็ดเสร็จอยู่ที่ประมาณ 30 ล้าน ซึ่งทาง “ป้าม่วย” ได้ว่าจ้างทนายฟ้องร้องอยู่ นอกจากนี้ “ป้าม่วย” ยังไม่ยอมให้อีกฝ่ายยืมเงิน 6 แสนบาท หลังจากมาทำทีอ้างว่า มีผู้ป่วยนอนติดเตียง จะทำพินัยกรรมยกมรดกให้ แล้วจะนำเงินดังกล่าวมาปิดหนี้ จนนำไปสู่ประเด็นการสังหาร

สำหรับทรัพย์สินที่ เจ๊ปุ้ย ได้มาจาก ป้าม่วย จากการสืบสวนพบว่ามีการนำไปซื้อรถยนต์ป้ายแดงหลายคันภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังมีทองรูปพรรณมูลค่าอีกหลายแสนบาท ส่วนการกระจายเงินในบัญชีต่าง ๆ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบต่อไป ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง เจ๊ปุ้ย กับ นายอ้วน น้ั้น ไม่ได้มีการว่าจ้างหรือใช้เงินล่อให้ นายอ้วน มาร่วมก่อเหตุ อาศัยเพียงแค่ความเป็นเครือญาติลูกพี่ลูกน้อง วานให้มาช่วยเหลือกันในบางครั้งเท่านั้น.